จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก “อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ” โพสต์ภาพสลิปการโอนเงินผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารที่มีชื่อผู้โอนระบุว่าเป็นบอสพอล และเป็นเงินทำบุญ โดยโอนเข้าบัญชีส่วนตัวของพระสงฆ์ ระบุชื่อว่า พระอุดร บุญชูหล้า พร้อมข้อความระบุว่า “บอสพอลโอนเงินทำบุญเข้าบัญชีส่วนตัวให้พระมหาอุดร บุญชูหล้า แบบฉ่ำมาก โดยส่วนใหญ่จะโอนทีละ 200,000-600,000 บาท บางเดือนโอนไป 2-3 รอบ (สลิปแค่ส่วนหนึ่ง) ในระยะเวลาไม่กี่ปี บิ๊กบอสพอล โอนเงินบริจาครวมๆ กว่า 12 ล้าน ผ่านพระรูปหนึ่ง โดยอ้างว่าทำบุญวัดสว่างน้ำใส แต่ไม่รู้ทำไม ทั้งๆ ที่วัดก็มีบัญชีวัดอยู่แล้ว แต่มักโอนเข้าผ่านพระรูปนี้ตลอดเลย แว่วๆ มาว่า พอลค่อนข้างสนิทมากซะด้วย มักจะทำแต่ที่นี่ประจำ ลองตรวจสอบดูอาจเจออะไรดีๆ..บอสปัน ก็เอากะเขาด้วยนะ..” ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 23 ต.ค. 67 พระราชพัฒนวัชรบัณฑิต รองเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น เจ้าอาวาสวัดธาตุ พระอารามหลวง เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวนั้นทราบจากทางเลขาฯเจ้าคณะจังหวัดฯ แต่ไม่ทราบว่าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับทางบอสพอล อย่างไร และได้รับเงินมาอย่างไร แต่ส่วนตัวเห็นว่าพระมหาอุดร สร้างเจดีย์ใหญ่โต และพัฒนาวัดเป็นร้อยกว่าไร่ ที่บ้านเกิด อ.โนนศิลา ซึ่งเป็นผลจากการที่มีญาติโยมศรัทธาร่วมทำบุญกับพระมหาอุดร แต่ก็ไม่ทราบว่าได้เงินมาอย่างไร แต่ที่เห็นมีพระเจดีย์ที่ใหญ่มาก ญาติโยมถวายที่เป็นร้อยไร่ ซื้อขายกันแบบกัลยาณมิตร

“พระผู้ใหญ่ได้มีการไปตรวจหลังถูกส่งเป็นวัดตามโครงการวัดประชารัฐสร้างสุข เป็นพื้นที่รมณียสถาน ที่อบรมคุณธรรม จริยธรรม มีทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ วัยรุ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านไปเข้าอบรม ทั้งภาคีเครือข่ายก็มาอบรมเช่นกัน และยังเป็นพื้นที่ที่ออกแบบวัดได้สวยงาม นอกจากมีพระเจดีย์ที่สวยงามแล้ว ยังเป็นแหล่งน้ำ เป็นเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเงินได้มาอย่างไรนั้นไม่ทราบ แต่ผลลัพธ์ที่ทำแล้วเป็นคุณูปการต่อพระพุทธศาสนา” พระราชพัฒนวัชรบัณฑิต กล่าว

รองเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น กล่าวอีกว่า การโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวพระนั้น เป็นเจตนาของผู้รับมาดำเนินการ เช่น หากญาติโยมถวายเงินพระอาจารย์ ก. ญาติโยมอาจจะบอกว่าไม่เป็นไรพระอาจารย์ ญาติโยมไม่ได้คิดอะไรมาก ทำบุญแล้วก็แล้วไป แต่ขอให้ 1-2-3 สำเร็จก็แล้วกัน และขอให้ตรวจสอบได้ว่า ถ้าสร้าง 1-2-3 แล้ว 1-2-3 เสร็จหรือไม่ ซึ่งญาติโยมที่ศรัทธาก็จบแล้ว เพราะบรรลุวัตถุประสงค์การทำบุญ ซึ่งไม่ถือว่ามีความผิดอะไร ยกเว้นว่า รับเงินทำบุญมาแล้วไม่ได้ทำอะไรต่อ แบบนั้นถือว่าทำเพื่อตัวเอง แต่ในกรณีของพระมหาอุดรนั้น ดูผลลัพธ์แล้วท่านทำเพื่อชาวพุทธทุกคน เพราะไม่ใช่วัดที่พระมหาอุดร สังกัด สิ่งที่สร้างก็ไม่ใช่ของพระมหาอุดร เป็นสมบัติชาวพุทธทุกคน เพราะฉะนั้นเรื่องดังกล่าวจึงอยู่ที่คนศรัทธาและทำบุญให้กับพระมหาอุดรไป ต้องมองว่าพระมหาอุดร ได้เงินไปแล้วทำตามวัตถุประสงค์ที่ญาติโยมต้องการหรือเปล่า ถ้าทำตามนั้นเราทุกคนก็ควรที่จะอนุโมทนาด้วย.