จากกรณีมีกระแสข่าวออกมาว่า ในโทรศัพท์ที่ยึดไปจากนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล เจ้าของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป นั้นมีเสียงสนทนาระหว่างนายวรัตน์พลกับนักร้องเรียนหญิงรายหนึ่ง เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านแชร์ ได้ตบทรัพย์จากบริษัท ดิไอคอน ไปจำนวนรวม 10 ล้านบาท

โดยภายหลัง ทางด้าน น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ ประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ ได้เปิดใจผ่านรายการ “โหนกระแส” ปัดรีดทรัพย์ เผย ไม่เคยเรียกเงิน 20% จากผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายเป็นคนโอนให้เอง ตามที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
-‘กฤษอนงค์’ เปิดใจ ปัดตบทรัพย์ ‘บอสพอล’ ชี้ ไม่เคยเรียกเงิน 20% จากผู้เสียหาย

ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 ต.ค. ทนายเกิดผล แก้วเกิด ได้ออกมาแสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กถึงเรื่องดังกล่าว ได้ระบุว่า “กรณี ที่คุณกฤษอนงค์ นักร้อง 2 หน้า คว้า 2 ไมค์ รับเงิน 2 ทาง ทั้งทางผู้เสียหาย และ ทาง บอสพอล โดยอ้าง ทางหนึ่งเป็นการกุศล ส่วนอีกทางเป็นธุรกิจ” เรื่องธุรกิจ เป็นเรื่องของบริการทางกฎหมาย โดยเธอบอกว่า เธอประกอบสำนักงานกฎหมาย มีทนายความ เป็นทีมงาน

“คนประกอบอาชีพด้านกฎหมาย จริง เขาจะไม่ทำแบบนี้ เป็นเรื่องของจรรยาบรรณวิชาชีพ ยิ่งเป็นทนายความ ยิ่งทำไม่ได้เลย เพราะ ทนายความมีข้อกำหนดว่าด้วยมรรยาททนายความ ที่มีต่อตัวความ” เมื่อคุณรู้ความลับ รู้ข้อมูลของลูกความคุณทุกอย่าง แต่คุณเป็นทำงานให้อีกฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับลูกความของคุณ โดยเรียกรับผลประโยชน์ มันเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง อย่าเอาสำนักกฎหมายมาหากินด้วยวิธีนี้เลย

“การหากิน ตีกลองสองหน้าแบบ คุณกฤษอนงค์ มันทำให้วิชาชีพกฎหมาย หรือ สำนักงานกฎหมายดีๆ พลอยถูกตำหนิ หรือ ถูกมองไม่ดี ในทางเสียหายไปด้วย ถ้าคุณไม่เข้าใจเรื่อง จรรยาบรรณวิชาชีพ ก็ปิดสำนักงานกฎหมาย แล้วไปทำงานเป็นนักร้อง ของคุณอย่างเดียวเถอะครับ”..

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @ทนายเกิดผล แก้วเกิด