เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 23 ต.ค. 67 พ.ต.อ.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง ผกก.สภ.กมลา ได้รับแจ้งพบซากพะยูนลอยมาเกยริมหาดกมลา ใกล้โขดหินด้านข้างโรงแรมโนโวเทล ภูเก็ต กมลา ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กมลา และเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดประจำหน้าหาดกมลา พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่กลุ่มสัตว์ทะเลหายากและใกล้สูญพันธุ์ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน (ศวอบ.) โดยสัตวแพทย์หญิงพัชราภรณ์ แก้วโม่ง (หมอฟ้า) หัวหน้าศูนย์ช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหาหายากสิรีธาร ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต ให้นำซากขึ้นริมหาดหน้า สภ.กมลา เพื่อพิสูจน์

ตรวจสอบในเบื้องต้น ทราบว่า พะยูนดังกล่าว เป็นเพศผู้โตเต็มวัย น้ำหนักประมาณ 200 กว่ากิโลเมตร ความยาว 2.52 เมตร ตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2-3 วัน มีบาดแผลบริเวณด้านหลังลำตัว หาง และครีบทั้งสองข้าง ก่อนนำส่งไปผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตาย

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ก็ได้พบซากพะยูน เพศผู้โตเต็มวัย น้ำหนักกว่า 150 กก. ความยาวประมาณ 2 เมตรเศษ ลอยอืดอยู่ในทะเล บริเวณชุมชนท่าจอดเรือประมง ท่าต้นโด บ้านคอเอน หมู่ 2 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง โดยไม่พบบาดแผล ซึ่งเป็นการพบซากพะยูนตายเป็นตัวที่ 2 ในรอบ 1 เดือน

อย่างไรก็ดี สัตวแพทย์หญิงพัชราภรณ์ แก้วโม่ง (หมอฟ้า) หัวหน้าศูนย์ช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหาหายากสิรีธาร ได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.กมลา เนื่องจากพะยูนเป็นสัตว์ป่าสงวนชนิดหนึ่งตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 เป็นสัตว์น้ำชนิดแรกของประเทศไทยที่ได้รับการกำหนดให้เป็นสัตว์ป่าสงวน เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อาศัยอยู่ในทะเลเขตอบอุ่น มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Dugong dugon อยู่ในอันดับพะยูน (Sirenia)

จากนั้นเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ทะเลหายากสิรีธาร, ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน รับซากไปยังศูนย์ฯ เพื่อผ่าพิสูจน์ หาสาเหตุการตายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าวันเดียวกัน (23 ต.ค.) ชาวบ้านได้พบซากเต่าหญ้าน้ำหนักประมาณ 30-50 กก. ตายมาแล้วประมาณ 2 วัน โดนคลื่นซัดเกยหาดหน้าสวนสาธารณะหาดกมลา เช่นกัน.