สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากเมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 23 ต.ค. ว่า ปูตินเป็นเจ้าภาพต้อนรับผู้นำโลกประมาณ 20 คน ไม่ว่าจะเป็น ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน, นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ผู้นำอินเดีย และประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกัน ผู้นำตุรกี ในการประชุมสุดยอดกลุ่มบริกส์ ระหว่างวันที่ 22-24 ต.ค. ณ เมืองคาซาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซีย

การประชุมดังกล่าวถือเป็นงานทางการทูตครั้งใหญ่ที่สุดในรัสเซีย นับตั้งแต่รัฐบาลมอสโกดำเนินปฏิบัติการทางทหารในยูเครน เมื่อเดือน ก.พ. 2565 ซึ่งปูติน ต้องการใช้เวทีนี้เพื่อท้าทายชาติตะวันตก และผลักดันแนวคิดของเขาเกี่ยวกับ “โลกหลายขั้ว” ที่เปรียบเสมือนกำแพงต้านทาน “อำนาจและอิทธิพลที่เหนือกว่า” ของสหรัฐ

ในการเจรจาทวิภาคีหลายรอบ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรกของการประชุมสุดยอด ปูตินยกย่องความสัมพันธ์อันใกล้ชิด และ “ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์” ระหว่างรัฐบาลมอสโก กับประเทศพันธมิตรที่รัสเซียเลือก อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับสงครามในยูเครน ยังคงเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญของการประชุมครั้งนี้

สำหรับโมดี ซึ่งมองตัวเองว่าอาจเป็นผู้สร้างสันติภาพ เขาเรียกร้องให้ยุติความขัดแย้งโดยเร็ว และเชื่อว่าข้อพิพาทควรได้รับการแก้ไขโดยสันติเท่านั้น อีกทั้งอินเดียยังสนับสนุนความพยายามอย่างเต็มที่ ในการฟื้นฟูสันติภาพและเสถียรภาพอย่างรวดเร็ว

ขณะเดียวกัน สีชื่นชม “ความสัมพันธ์อันลึกซึ้ง” ระหว่างจีนกับรัสเซีย ในสิ่งที่เขาเรียกว่า “โลกที่วุ่นวาย” พร้อมกับเสริมว่า ความสัมพันธ์ข้างต้นผลักดันการพัฒนา การฟื้นฟู และความทันสมัยของทั้งสองประเทศ ซึ่งปูตินกล่าวกับผู้นำจีนว่า ความสัมพันธ์รัสเซีย-จีน ถือเป็นรากฐานของ “เสถียรภาพระดับโลก”

ด้านประธานาธิบดีไซริล รามาโฟซา ผู้นำแอฟริกาใต้ ซึ่งเรียกร้องการยุติความขัดแย้งเช่นกัน กล่าวในการพบปะกับปูติน ยกย่องรัฐบาลมอสโกในฐานะ “พันธมิตรอันทรงคุณค่า” และยืนยันว่า แอฟริกาใต้จะสนับสนุนรัสเซียต่อไป.

เครดิตภาพ : AFP