สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ว่านายเหวียน ฮ่อง เดียน รมว.อุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนาม แถลงต่อสภาแห่งชาติ ว่าจะมีการแก้ไขแผนพัฒนาพลังงานแห่งชาติพีดีพี8 เพื่อเพิ่มการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม

แผนพีดีพี8 ซึ่งได้รับการอนุมัติเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา จะช่วยให้กำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดของประเทศเพิ่มขึ้น เป็นมากกว่า 150 กิกะวัตต์ภายในปี 2573 จากมากกว่า 80 กิกะวัตต์ เมื่อปลายปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม การพัฒนาพลังงานลมนอกชายฝั่ง และก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ยังตกอยู่ในความเสี่ยง เนื่องจากอุปสรรคด้านกฎระเบียบและราคา

เดียนกล่าวว่า การแก้ไขแผนพัฒนาพลังงานมีขึ้นเพื่อให้สามารถ “ใช้ศักยภาพด้านพลังงานของเวียดนามได้อย่างเต็มที่ และดำเนินการเชิงรุกเพื่อจัดหาพลังงาน”

นอกจากนั้น เอกสารของรัฐบาลที่สื่อมวลชนตรวจสอบ เมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ระบุว่า เวียดนามกำลังพิจารณากลับมาดำเนินการตามแผนพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์อีกครั้ง เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้ถึงร้อยละ 12-15 ต่อปี และสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ร้อยละ 7 ต่อปี

เวียดนามกำลังหารือ เกี่ยวกับเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบโมดูลาร์ขนาดเล็ก ร่วมกับหลายประเทศ รวมถึงเกาหลีใต้, แคนาดา และรัสเซีย

ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2552 เวียดนามได้อนุมัติแผนการพัฒนาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 2 แห่งแรก แต่ถูกระงับในปี 2559 หลังเกิดภัยพิบัติโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ที่ญี่ปุ่น และด้วยข้อจำกัดด้านงบประมาณ

โรงไฟฟ้าแห่งนี้มีแผนจะสร้างในจังหวัดนิญถ่วน ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทางตอนกลางของเวียดนาม โดยจะมีกำลังการผลิตรวม 4 กิกะวัตต์ และสร้างโดยบริษัท “รอสอะตอม” จากรัสเซีย และ “เจแปน อะตอมิค พาวเวอร์” จากญี่ปุ่น.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES