ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์ที่มีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ที่ผู้ปกครองหรือผู้ใหญ่มักปล่อยให้เด็กอยู่ภายในรถเพียงลำพัง เพียงเพราะว่าแค่ซื้อของหรือทำธุระแค่แวบเดียว แต่สุดท้ายเรื่องที่ไม่คาดคิดก็อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งบางครั้งผู้ใหญ่ หรือพ่อแม่อาจเห็นในสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วสามารถช่วยเหลือได้ทัน แต่ถ้าในบางครั้งไม่มีใครเห็นหรือรับรู้ การตกเป็นเหยื่อเพราะความประมาท อาจส่งผลทำร้ายเด็กให้ถึงกับชีวิตได้

ดังนั้นศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดบางพระ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา จึงได้ร่วมกับอบต.บางพระ บ้านพักเด็กและเยาวชนจังหวัดฉะเชิงเทรา กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ผู้นำท้องถิ่น ได้ร่วมกันจัดโครงการส่งเสริมการเรียนรู้ในเด็กปฐมวัย ซ้อมความปลอดภัยในการรับ-ส่งเด็กนักเรียน เพื่อให้รู้จักวิธีเอาตัวรอดเมื่อติดอยู่ภายในรถ โดยที่เด็กๆ สามารถจดจำและนำไปปฏิบัติเองได้ ทั้งในเรื่องการลดกระจกลง การปลดล็อคประตู การเปิดสัญญาณฉุกเฉิน หรือแม้แต่การบีบแตร เพื่อขอความช่วยเหลือ ขณะติดอยู่ภายในรถ

น.ส.สลักจิต พึ่งแสวงผล ผอ.ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดบางพระ เปิดเผยว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่จัดขึ้นเพื่อสร้างการรับรู้ ให้กับเด็กปฐมวัย ซึ่งอยู่ในช่วงอายุ 2-5 ขวบ ที่มักเกิดเหตุการณ์ที่ผู้ปกครองหรือผู้ใหญ่ชอบหลงลืมเด็กไว้ภายในรถ ด้วยสาเหตุที่เด็กอาจนอนหลับ ทำให้ผู้ปกครองปล่อยให้เด็กนอน เพื่อที่ตนเองจะได้ลงจากรถไปทำธุระแค่แวบเดียว หรือเหตุการณ์ที่ผู้ปกครองลงจากรถ แล้วรถเกิดล็อค ทำให้ไม่สามารถเข้ารถได้ โดยมีเด็กติดอยู่ภายในรถ ซึ่งโครงการนี้ก็จะสามารถช่วยชีวิตเด็กให้รอดได้

นางกุลดา ศุภเกรียงไกร กรรมการศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดบางพระ เปิดเผยว่า ในปัจจุบันผู้ปกครองส่วนใหญ่ก็มีรถยนต์ รถกระบะกันเกือบทุกครอบครัว พอถึงเวลาที่ต้องเดินทางไปไหน แล้วต้องพาเด็กเล็กไปด้วย แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องลงจากรถไปทำธุระ บางที่ผู้ปกครองอาจหลงลืม ประมาท เร่งรีบ หรือเห็นว่าช่วงนี้มีฝนตก จึงไม่อยากให้ลูกหลานเปียกฝน จึงได้ปล่อยทิ้งไว้ภายในรถ จนเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นมาได้ ดังนั้นทางศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดบางพระ จึงได้จัดโครงการนี้ ให้อยู่ในระบบการเรียนการสอนของเด็กด้วย เพื่อให้เด็กเล็กได้เรียนรู้เพื่อเอาตัวรอด เมื่อต้องติดอยู่ภายในรถ