เมื่อวันที่ 21 ต.ค. นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ จับตา “ดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล” คืนนี้ : 6 คำถาม ที่สังคมเฝ้ารอคำตอบที่ชัดเจน  โดยระบุว่า เย็นนี้ หัวหน้าและแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลจะมีการรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน ท่ามกลางจุดยืนและความเห็นเชิงนโยบายที่แตกต่างกันระหว่างแต่ละพรรค ซึ่งปรากฏให้เห็นชัดขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากพรรคภูมิใจไทยโหวตแตกต่างจากพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลอื่นเกี่ยวกับร่างแก้ไข พ.ร.บ.ประชามติ ที่ สว. ส่งกลับมาที่สภาในวันที่ 9 ต.ค. เราก็ไม่ได้เห็นการลงมติในสภาผู้แทนราษฎรอีกเลย โดยมีหลายครั้งที่ประธานเลือกปิดประชุมเร็วกว่าปกติ ซึ่งหลายคนวิเคราะห์ว่าเป็นเพราะความกังวลของรัฐบาลที่ไม่อยากให้มีภาพปรากฏว่าพรรคร่วมรัฐบาลลงมติอย่างไม่เป็นเอกภาพกัน

นายพริษฐ์ กล่าวว่า ความไม่เป็นเอกภาพดังกล่าวไม่เพียงแต่ทำให้สภาทำงานได้ล่าช้าลงในการพิจารณาวาระและกฎหมายต่างๆ ที่ค้างอยู่จำนวนมาก แต่ยังทำให้ชะตากรรมของหลายนโยบายของรัฐบาลที่ประชาชนให้ความสำคัญ มีความไม่แน่นอน ผมเชื่อว่าประชาชนคาดหวังจะได้คำตอบที่ชัดเจนจากรัฐบาลหลังดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลคืนนี้ ในอย่างน้อย 6 ประเด็น: 1. รัฐบาลจะเดินหน้าให้มี รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดย ส.ส.ร. เสร็จทันก่อนเลือกตั้งครั้งหน้า ตามที่เคยได้สัญญาไว้หรือไม่ จะมีการมอบหมายพรรคร่วมรัฐบาลพรรคไหนหรือไม่ ให้ไปหารือกับสมาชิกวุฒิสภาให้สนับสนุนหลักการสำคัญในร่างแก้ไข พ.ร.บ.ประชามติ ของสภาผู้แทนราษฎร จะมีการมอบหมายพรรคร่วมรัฐบาลพรรคไหนหรือไม่ ให้ไปโน้มน้าวให้ประธานสภาเห็นว่าการบรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่อง ส.ส.ร. เพื่อลดจำนวนประชามติจาก 3 เหลือ 2 ครั้ง ไม่ขัดกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ

นายพริษฐ์ ระบุต่อว่า 2. รัฐบาลจะเดินหน้าต่ออย่างไรเรื่องการ นิรโทษกรรมคดีทางการเมือง พรรคเพื่อไทยจะยืนยันหรือไม่ว่าจะเดินหน้าลงมติเห็นชอบกับรายงานของ กมธ. (ที่ สส. จากพรรคเพื่อไทยเป็นประธาน) เนื่องจากเป็นรายงานที่เพียงเสนอทางเลือกเชิงนโยบายต่างๆ โดยไม่ได้ผูกมัด ครม. ให้เลือกทางใดทางหนึ่ง เมื่อผ่านพ้นการพิจารณารายงานไปแล้ว จะมีการเสนอร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรม ในนามของ ครม. หรือ ในนามของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เมื่อไร และมีเนื้อหาที่วางแนวทางเกี่ยวกับการนิรโทษกรรมคดี 112 ไว้อย่างไร

3. รัฐบาลจะเดินหน้าต่ออย่างไรเรื่องนโยบาย ดิจิทัลวอลเล็ต ในเฟสสอง  ตกลงรัฐบาลจะเดินหน้าหรือไม่ ในการแจกเงินหมื่นในเฟสสองให้กับคนอีกหลายสิบล้านคนที่ลงทะเบียนแต่ยังไม่ได้อยู่ในกลุ่ม 14.5 ล้านคนจากเฟสแรก หากเดินหน้า งบประมาณที่จะต้องถูกจัดสรรมา จะไปเบียดบังงบประมาณที่พรรคร่วมรัฐบาลอยากใช้ในการผลักดันโครงการของกระทรวงที่แต่ละพรรครับผิดชอบอยู่หรือไม่

นายพริษฐ์ ระบุต่อไปว่า 4. รัฐบาลจะตกลงกันได้หรือไม่ ว่าร่างกฎหมายของใครจะเป็นร่างหลัก โดยเฉพาะ พ.ร.บ. ขนส่งทางราง ซึ่งจะต้องมีการลงมติกันในสัปดาห์หน้า เราจะเห็นพรรคเพื่อไทยมีความพยายามกดดัน สส. พรรคร่วมรัฐบาลพรรคอื่นหรือไม่ ให้หันมาโหวตให้ร่างของเพื่อไทยเป็นร่างหลัก (แทนร่างของ ครม.) ทั้งๆ ที่ร่างของพรรคเพื่อไทยเป็นร่างที่พรรคประชาชนมองว่ามีกลไกคุ้มครองผู้ใช้บริการและกลไกตรวจสอบน้อยที่สุด รวมถึงมีช่องโหว่ที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงในการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนมากที่สุด (ติดตามรายละเอียดได้จากการอภิปรายของ สส. สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ)

นายพริษฐ์ ระบุต่อไปว่า 5. รัฐบาลจะหารือกันเรื่องการอำนวยความยุติธรรมในคดีตากใบหรือไม่ พรรคร่วมรัฐบาลที่มีฐานในพื้นที่ชายแดนใต้ (และมีบทบาทสำคัญในการผลักดันเรื่องดังกล่าวใน กมธ.กฎหมาย) จะมีข้อเสนออย่างไรต่อนายกฯ ในการดำเนินการให้มีการนำตัวจำเลยและผู้ต้องหาทุกคนมาขึ้นศาลให้ทันก่อนอายุความจะหมดลงในอีก 5 วัน 6. รัฐบาลจะมีความชัดเจนขึ้นหรือไม่ เกี่ยวกับแนวทางในการดำเนินนโยบายที่เคยมีความเห็นต่างกันระหว่างสองพรรคใหญ่สุดในขั้วรัฐบาล (เช่น นโยบายกัญชา/นโยบายสถานบันเทิงครบวงจร) รอดูกันครับ ว่าเราจะได้ความชัดเจนเรื่องไหนบ้าง จากดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลในค่ำคืนนี้.