เมื่อวันที่ 21 ต.ค.รศ.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) เปิดเผยว่า ตามที่มีการแต่งตั้งตนให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาการศึกษานั้น เมื่อเร็วๆนี้ ตนได้มอบนโยบายให้แก่ผู้บริหารและข้าราชการสภาการศึกษา ซึ่งตนได้มีแนวทางขับเคลื่อนนโยบายใน 4 เรื่องใหญ่ที่สำคัญ ได้แก่ 1.ร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ..2.แผนการศึกษาแห่งชาติ 3.การจัดการศึกษาปฐมวัย และ4.ธนาคารหน่วยกิต ทั้งนี้ใน 4 เรื่องใหญ่ดังกล่าวถือว่าจะต้องดำเนินการให้เกิดความต่อเนื่อง โดยเฉพาะร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ…ที่ขณะนี้ร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวได้มีการปรับปรุงแก้ไขและชี้แจงใน 8 ประเด็น ซึ่งได้นำเสนอให้นายอนุทิน ชาญวรีกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะที่กำกับดูแลกระทรวงศึกษาธิการไปแล้ว โดยหลังจากนี้จะต้องนำร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้เสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา เพื่อเห็นชอบเป็นร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ..ขอรัฐบาลต่อไป  ส่วนเรื่องการจัดการศึกษาปฐมวัยถือว่าสกศ.เป็นเจ้าภาพดูแลพ.ร.บ.การศึกษาปฐมวัย ซึ่งในประเด็นที่จะให้การจัดการศึกษาปฐมวัยไปอยู่ในความดูแลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) นั้น เรื่องนี้เป็นเพียงข้อเสนอของกรรมาธิการยังไม่ได้มีข้อสรุปอะไรออกมา  ส่วนเรื่องธนาคารหน่วยกิตจะต้องผลักดันต่อเนื่อง เพราะเป็นนโยบายสำคัญของพล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ

เลขาธิการสกศ.กล่าวต่อไปว่า  ส่วนเรื่องของงานวิจัยต่างๆนั้นตนถือว่าจะเป็นนโยบายสำคัญที่เราจะต้องนำประเด็นงานวิจัยใหม่ๆที่มีแนวโน้มจะเกิดทักษะการศึกษาในอนาคตมาทำเป็นองค์ความรู้ในรูปแบบ research unit หรือเป็นกองงานวิจัยย่อยๆภายในสภาการศึกษา เพื่อตามเทรนด์การจัดการศึกษาของโลกสู่องค์ความรู้ในการกำหนดนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการได้  ทั้งนี้ได้กำชับนโยบายของการปฏิรูปองค์กร โดยจะสร้างสกศ.ให้เป็นคลังปัญญาด้านการศึกษาของประเทศ เพื่อชี้ทิศทางการศึกษาและขับเคลื่อนองค์กรด้วยองค์ความรู้ มีฐานงานวิจัยต้องตอบโจทย์สังคมและนำไปใช้ได้จริง  พร้อมการติดตามประเมินผลอ้างอิงข้อมูลสถิติเป็นสำคัญ บูรณาการงานร่วมกับทุกสำนักเพื่อพัฒนาการศึกษาของประเทศ สร้าง Co-working Space แหล่งสันทนาการสำหรับนักวิจัย ประเมินผลกระทบกฎหมายทุกมิติเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา เชื่อมโยงระบบธนาคารหน่วยกิตกับกรอบคุณวุฒิเเห่งชาติ นำไปสู่การศึกษาแบบ Anywhere anytime