เมื่อวันที่ 20 ต.ค. นายนพดล ปัทมะ  สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ตั้งคำถามถึงกรณี ดิไอคอนกรุ๊ป ซึ่งดำเนินการในลักษณะที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่าฉ้อโกงประชาชน อยู่ได้อย่างไรมาเป็นเวลาหลายปี จนสามารถทำให้ผู้คนไปซื้อสินค้าหรือลงทุนและเสียหายนับพันล้านบาท ว่า มีคนตั้งข้อสงสัยว่าการที่มีคนเกี่ยวข้องนับแสน รอดหูรอดตาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและปล่อยให้ไฟลามทุ่งแบบนี้ได้อย่างไร จนทำให้ประชาชนสูญเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก ทั้งๆ ที่ควรมีกลไกภาครัฐที่จะไปตรวจสอบเฝ้าติดตามและแจ้งข้อมูลให้ประชาชนรู้ว่าการประกอบธุรกิจของใครเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนหรือแชร์ลูกโซ่หรือไม่ตั้งแต่เนิ่นๆ

นายนพดล กล่าวต่อว่า ต้องขอบคุณรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้ดำเนินการ เรื่องนี้แม้อาจจะช้าไป แต่ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายและข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา ให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาและทำความจริงให้ปรากฏ นอกจากนั้น ควรหาทางเยียวยาผู้เสียหายให้ได้มากที่สุดเพราะเป็นคนที่น่าสงสาร แต่ประเด็นสำคัญตนขอเสนอว่า รัฐบาลควรสร้างมาตรการป้องกันเชิงระบบที่ยั่งยืน โดยให้ผู้เกี่ยวข้องไปคิดค้นระบบเตือนภัยการฉ้อโกงประชาชนและแชร์ลูกโซ่ล่วงหน้า เพื่อตัดไฟตั้งแต่ต้นลม เช่น การสอดส่องการจดทะเบียนของบริษัทต่างๆ การประกอบธุรกิจขายตรงหรือเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ เป็นเสมือนอุปกรณ์เซฟทีคัทที่ป้องกันไม่ให้ไฟไหม้บ้าน เพื่อไม่ให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์จะต้องตกเป็นเหยื่อกระบวนการในลักษณะนี้อีกในอนาคต ซึ่งหลายประเทศเขาก็สามารถที่จะทำได้

“ถ้ามีระบบเตือนภัยจากการฉ้อโกงประชาชนและแชร์ลูกโซ่ จะช่วยปกป้องผู้บริสุทธิ์ และทำให้ชื่อเสียงของประเทศไทยเป็นประเทศที่ปลอดจากการฉ้อโกงประชาชน และกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดสร้างไทยให้ปลอดภัยในทุกๆ ด้าน” นายนพดล กล่าว.