เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. มีคำสั่งให้ บก.ปอศ. เข้ามาร่วมสืบสวนสอบสวนในคดี ดิไอคอนกรุ๊ป ซึ่งล่าสุด พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. ได้หารือร่วมกับ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. เกี่ยวกับการต้องแจ้งข้อหากับบรรดาบอสทั้ง 18 คน เพิ่มเติม

1.4พันล้าน! ยึดรถ ‘ดิไอคอน’ เพิ่ม 4 คัน ขณะยอดผู้เสียหายพุ่ง จ่อแตะครึ่งหมื่น

โดยมีรายงานว่าสำหรับฐานความผิดที่จะแจ้งเพิ่มนั้น มีข้อหาร่วมกันกระทำผิดฐานฟอกเงินเป็นหลัก นอกจากนี้อาจมีข้อหาอื่นๆประกอบ เช่น ความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงิน รวมไปถึงข้อหาย่อยอย่างอั้งยี่และซ่องโจร เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหามีพฤติกรรมเป็นขบวนการในลักษณะขององค์กรอาชญากรรมด้วย

โดยการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมนั้น ทีมสอบสวนจะมอบให้พนักงานสอบสวนตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เข้าไปแจ้งข้อหากับผู้ต้องหาทั้งหมดในเรือนจำ ซึ่งคาดว่าจะสรุปข้อหาทั้งหมดที่จะแจ้งเพิ่มเติมได้ภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งชุดพนักงานสอบสวนจะประสานงานกับทีมสืบสวนที่มีตำรวจ บก.ป. เป็นตัวหลักในการตรวจสอบเส้นทางการเงินและสถานะทรัพย์สินของผู้ต้องหาแต่ละราย เพื่อให้ได้หลักฐานโยงไปสู่การกระทำความผิดฐานฟอกเงินด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากมีการแจ้งข้อหาฐานฟอกเงินแล้ว ทีมสอบสวนของสอบสวนกลางจะต้องหารือกันอย่างใกล้ชิดกับ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ว่าจะมีการรับสำนวนไปดำเนินคดีต่อ ตามขั้นตอนของกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากว่าเข้าหลักเกณฑ์เป็นคดีพิเศษ ขณะนี้คาดว่าดีเอสไอก็กำลังพิจารณาอยู่ด้วย

ส่วนการขยายผลไปสู่การจับกุมผู้ต้องหากลุ่มที่ 2 นั้น ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมหลักฐานและให้ชุดสืบสวนแกะรอย ซึ่งจะต้องมีการออกหมายเรียก หรือหมายจับผู้ต้องหาในกลุ่มต่อไปอย่างแน่นอน อาทิ กลุ่มแม่ข่ายต่างๆ รวมไปถึงกลุ่มพนักงานของบริษัทบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับการลงนามในเอกสารที่มีผลทางกฎหมาย แต่คงใช้เวลาตรวจสอบหลักฐานอีกสักระยะ