สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ว่าจากกรณีมีอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน ลำหนึ่ง โจมตีบ้านพักของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล ที่เมืองซีซาเรีย ในเขตภาคกลางของประเทศ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา


อย่างไรก็ตาม เนทันยาฮูและนางซารา เนทันยาฮู ภริยา ไม่ได้อยู่ที่บ้านพักในช่วงเวลาดังกล่าว และไม่มีประชาชนในบริเวณนั้น ได้รับผลกระทบจากการโจมตีของโดรน ซึ่งจนถึงตอนนี้ ยังไม่มีบุคคลหรือกลุ่มใดแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของนั้น


ทำเนียบนายกรัฐมนตรีอิสราเอลออกแถลงการณ์เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ ระบุเป็นคำกล่าวของเนทันยาฮู ว่า “กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ซึ่งเป็นตัวแทนของอิหร่าน” พยายามลอบสังหารตัวเขาและภรรยา “แต่ไม่ประสบความสำเร็จ” พร้อมทั้งเสริมเองด้วยว่า “บุคคลใดก็ตามที่พยายามสร้างอันตรายให้แก่อิสราเอลและพลเมืองอิสราเอล จะต้องได้รับผลตอบแทนอย่างสาสม”


ขณะที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่สำนักงานคณะผู้แทนถาวรอิหร่านประจำสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) ออกแถลงการณ์ ว่าการส่งโดรนที่เกิดขึ้น เป็นความพยายามของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ในการลอบสังหารเนทันยาฮู


ด้านนายอิสราเอล คัตซ์ รมว.กระทรวงการต่างประเทศอิสราเอล กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เป็นการ “เผยธาตุแท้” ของอิหร่าน ส่วนพล.ร.ต.ด.ดาเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอล ให้ความเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ ว่าโดรนลำดังกล่าวชนเข้ากับตัวอาคาร และมีวัตถุประสงค์ชัดเจน ว่าต้องการลอบสังหารนายกรัฐมนตรี


ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังทหารอิสราเอลในฉนวนกาซา สังหารนายยาห์ยา ซินวาร์ ผู้นำสูงสุดฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส หลังเผชิญหน้ากันโดยบังเอิญ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน กล่าวว่า การเสียชีวิตของซินวาร์ “เป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่และเจ็บปวด” สำหรับแนวร่วมอักษะแห่งการต่อต้าน ที่สมาชิกรวมถึงกลุ่มฮามาสและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ แต่คาเมเนอีเน้นว่า “กลุ่มฮามาสยังอยู่และจะยังคงอยู่ต่อไป”.

เครดิตภาพ : AFP