ทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยไม่ต้องเดินทางข้ามไปยังประเทศอื่นเพื่อขึ้นเรือสำราญ โดยนำเรือ Costa Serena มาจอดรับถึงท่าเรือแหลมฉบัง โดยจะเริ่มต้นการเดินทางครั้งแรก 15 กุมภาพันธ์ 2568

เริ่มต้นด้วยเส้นทาง 5 วัน 4 คืน ไปยังเกาะฟูก๊วกของเวียดนามโดยพักค้างแรม 1 คืน ก่อนจะกลับมาแวะเกาะสมุย ก่อนจะกลับมาที่แหลมฉบัง เหตุผลที่จอดค้างที่เกาะฟูก๊วกหนึ่งคืน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ออกไปสัมผัส “ไข่มุกของเวียดนาม” เกาะที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเวียดนามได้อย่างเต็มที่ โดยมีเรือเล็กพาขึ้นฝั่งหลังจากจอดทอดสมอ ถ้าไม่รู้ว่าจะไปไหน จะใช้บริการแพ็กเกจของทางเรือที่มี หรือไปเอง ตามจุดท่องเที่ยวชื่อดังของฟูก๊วก ไม่ว่าจะเป็นแกรนด์เวิลด์ฟูก๊วก ศูนย์รวมความบันเทิงและการท่องเที่ยวเต็มรูปแบบภายในพื้นที่ขนาดใหญ่ 6,000 กว่าไร่ โดยจำลองเมืองท่องเที่ยวชื่อดังจากทั่วโลกมาไว้ในที่เดียวทั้งเวนิส เซี่ยงไฮ้ เกาหลี รวมถึงเวียดนาม สวนสนุกวินวันเดอร์ส ที่มีเครื่องเล่นกว่า 100 ชนิดในพื้นที่ 6 โซน หรือจะนั่งกระเช้าข้ามทะเลที่มีความยาวถึง 7,899.9 เมตร ไปที่ อุทยานธรรมชาติซันเวิลด์ฮอนเทิม บนเกาะ Hon Thom หรือเกาะสับปะรด ภายในมีกิจกรรมมากมายทั้งสวนสนุก Exotica Village และสวนน้ำ Aquatopia

จากเวียดนามวกกลับมาแวะเที่ยวเกาะสมุย ที่มีเวลาเหลือเฟือให้แวะไปเช็กอินที่ หาดเฉวง อันเลื่องชื่อ หินตาหินยาย มหัศจรรย์แห่งประติมากรรมธรรมชาติ สายมูไป ศาลเจ้ากวนอู ศาลเจ้าเก่าแก่ของเกาะสมุยอายุกว่า 100 ปี ปัจจุบันประดิษฐานองค์กวนอูเนื้อสัมฤทธิ์สูงขนาด 16 เมตร ซึ่งเป็นองค์กวนอูที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แล้วไปฟินกับอาหารใต้และอาหารทะเลรสเด็ดที่ ร้านเพ็ญศิริ หรือ เล็กโภชนา หรือจะไปชมวิวจิบกาแฟเบา ๆ ที่ The Jungle Club เส้นทางแหลมฉบัง-เกาะฟูก๊วก (เวียดนาม)-เกาะสมุย-แหลมฉบัง มีให้เลือก 2 ช่วงให้เลือกตามความสะดวก

ต่อด้วยอีกช่วงกับอีกเส้นทางแหลมฉบัง-โฮจิมินห์ (เวียดนาม)-ฮ่องกง กับทริป 6 วัน 5 คืน โดยจะเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือฝู่หมี นครโฮจิมินห์ แต่เพราะเป็นท่าเรือเชิงพาณิชย์และอยู่ห่างจากโฮจิมินห์ประมาณ 90 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากเมืองวุงเตา เมืองตากอากาศขึ้นชื่อของเวียดนามใต้ประมาณ 55 กิโลเมตร การออกไปเที่ยวการซื้อแพ็กเกจเสริมเพิ่มเติมจึงสะดวกที่สุด

 แน่นอนว่าจะต้องไปเช็กอินกับสถาปัตยกรรมอันงดงามของ อาคารไปรษณีย์กลาง สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1886- 1891 โดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศสชื่อดัง กุสตาฟ ไอเฟล ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านการออกแบบหอไอเฟลและเทพีเสรีภาพ โดดเด่นด้วยประตูโค้งและนาฬิกาที่อยู่ตรงกลางประตูบานใหญ่ โบสถ์นอร์ทเธอดาม โบสถ์คริสต์ที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในเวียดนาม ก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2420 ใช้ระยะเวลาการสร้าง 6 ปี จุดเด่นคือหอคอยคู่สี่เหลี่ยมอยู่ด้านหน้าสูง 40 เมตร ชอปปิงที่ ตลาดเบ๊นถั่ญ ตลาดขนาดใหญ่ใจกลางนครโฮจิมินห์ เป็นหนึ่งในอาคารยุคแรกสุดที่ยังหลงเหลืออยู่จากสมัยไซ่ง่อนและเป็นสัญลักษณ์ของโฮจิมินห์ นักท่องเที่ยวที่ต้องการของที่ระลึกทั้งชุดอ๊าวส่าย เครื่องประดับ ของที่ระลึก รวมทั้งอาหารท้องถิ่น มาที่เดียวครบจบ วัดวินห์เงียม วัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโฮจิมินห์ มีเจดีย์ 7 ชั้นสูง 40 เมตร หรือไปเที่ยวเมืองหวุงเต่า เมืองชายทะเลที่เป็นที่พักตากอากาศยอดนิยมอีกแห่งของเวียดนาม

จากเวียดนามล่องต่อไปยังฮ่องกง ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดการเดินทางของทริปนี้ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินทางต่อได้ตามความต้องการ จะอยู่ไหว้พระขอพรที่วัดชื่อดังของฮ่องกงอย่าง วัดแชกงหมิว หมุนกังหันเปลี่ยนชีวิตนำพาโชคลาภให้เข้ามาหา อิ่มอร่อยกับบะหมี่เกี๊ยวฮ่องกงสูตรต้นตำรับ แวะหาแหวนหรือสร้อยกังหันกลับไปหมุนโชคลาภกันต่อ แล้วไม่ลืมแวะชอปปิงที่ย่านจิมซาจุ่ย พักค้างที่ฮ่องกงอีกคืน ก่อนจะเดินทางกลับแบบสบาย ๆ

พรรษา สิงโตแก้ว CEO บริษัท อารมณ์ดี เอ็กซ์พีเรียนซ์ จำกัด กล่าวว่า การเปิดตัวโปรแกรมการล่องเรือครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย ที่จะช่วยเสริมให้ท่าเรือแหลมฉบังกลายเป็นศูนย์กลางสำคัญสำหรับการล่องเรือในภูมิภาค โดยมีความร่วมมือจากองค์กรท่องเที่ยวทั้งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การท่องเที่ยวเวียดนาม การท่องเที่ยวฮ่องกง และองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวปูซานด้วย

“นี่ไม่ใช่เพียงแค่ครั้งแรกของประเทศไทย แต่ยังเป็นการพัฒนาครั้งสำคัญสำหรับการท่องเที่ยวเรือสำราญในภูมิภาคเอเชีย ด้วยเรือ Costa Serena ซึ่งเป็นเรือที่มีทั้งความสะดวกสบายและความหรูหรา เรามั่นใจว่าโปรแกรมนี้จะได้รับความสนใจอย่างมากจากนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ โดยมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นเพียงหลัก 1x,xxx บาท ต่อท่าน ทำให้คนไทยสามารถสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวทางเรือสำราญได้อย่างง่ายขึ้น”

Costa Serena เป็นเรือสำราญขนาดใหญ่ จุผู้โดยสารได้ 3,700 คน และลูกเรือกว่า 1,000 คน มีห้องพักบนเรือกว่า 1,500 ห้อง มีห้องอาหารกว่า 7 ห้อง ให้เลือสรร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างฟิตเนส สปา ห้องเล่นกีฬาต่าง ๆ ลานกิจกรรม การแสดงดนตรี พร้อมกิจกรรมอีกมากมาย และห้ามพลาดชมการแสดงระดับโลกที่ Giove Theatre (ชั้น 3, 4, 5 หัวเรือ) ที่มีการแสดงให้ชมทุกคืนโดยไม่ซ้ำกันในแต่ละคืน

นอกจาก 3 เส้นทางที่ว่าแล้ว ยังมีทริปพิเศษก่อนที่เรือจะเข้ามาเทียบท่าที่แหลมฉบังอย่างการนั่งเรือแบบยาว ๆ จากเมืองปูซาน เกาหลีใต้ โดยใช้เวลา 7 วัน 6 คืน ดูเพิ่มเติมที่ www.rromdtour.com