เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดกรณีส่ออลเวง ภายหลังมีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “อรการต์ ปัญญา” โพสต์ภาพ และข้อความระบุว่า “ขอใช้สิทธิในการเป็นลูกสาว ชี้แจง 1.พ่อได้ทำการสั่งซื้อลอตเตอรี่และมีการเจรจาตกลงกันว่าโอนตอนเย็นได้มั้ย เนื่องด้วยสันยานที่บ้านไม่ดี แอปธนาคารหมุน ทำให้โอนไม่ได้ (ซื้อขายกันมาตั้งแต่ปี 65 ไม่เคยค้าง แต่มีโอนช้าเป็นบางครั้ง โดยได้เคยบอกเหตุสันยานไม่เสถียรอยู่ประจำ )*หลักฐานการคุยในรูป 2.งวดก่อนๆที่ผ่านมา #แต่ไม่ถูก ไม่ว่าจะโอนช้าหรือเร็วก็ไม่เคยมีปัญหา ว่าผู้ขายจะเก็บไว้เอง 3.พ่อไม่รู้ตัวว่าตัวเองถูกรางวัล และไม่มีการโทรแจ้งจากผู้ขาย รู้เพราะมีคนโทรไปบอกว่าคนที่บ้านศรีสะเกษถูกรางวัลที่1 จึงรู้ว่าเลขรางวัลนั้นคือเป็นเลขใบที่พ่อซื้อ 4.พ่อได้มีการโทรหาผู้ขาย ผู้ขายได้มีการเจรจาว่าจะให้ และผู้ขายได้มีการส่งข้อความมาขอเลขบัญชีจะขึ้นเงินแล้วโอนเข้าบัญชีให้ แต่พอพ่อเราบอกว่าจะมาเอาไปขึ้นเอง พอมาถึงก็ไม่เจอและติดต่อไม่ได้ 5.ผู้ขายเปลี่ยนใจโดยให้เหตุผลว่า “มีหลายคนบอกว่า ผู้ซื้อโอนช้าไป การโอนหลังจากรางวัลออกไม่ได้” และเมื่อมาถึงบ้านไม่เจอผู้ขาย และยังติดต่อไม่ได้ ติดธุระทางไหนอยู่หรือเปล่าคะ? 6.ประโยคสุดท้ายหลังจากหายขาดการติดต่อ…#ถูกรางวัลต้องได้ตังค์นะคะ เราผิดคุณก็ได้ เราถูกคุณยังจะได้อีกหรอ?? มาคุยกันดีกว่าหนี้หาย!!”

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบ บ้านผู้โพสต์ ใน ต.ตะเคียนช่างเหล็ก อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ พบ นายวรชัย ปัญญา อายุ 50 ปี พ่อผู้โพสต์ เบื้องต้นเผยว่า เรื่องราวต่างๆ ที่โพสต์บนโซเชียลนั้น ลูกสาวของตนเป็นคนโพสต์ ซึ่งที่เกิดเหตุคือบ้านเกิด แต่ตนไปทำงานตัดแต่งลูกลำไยอยู่ที่จังหวัดจันทบุรี และทักแชตซื้อหวยกับพ่อค้าคนนี้เป็นประจำ เพราะเป็นเพื่อนตอนสมัยเด็ก วันที่เกิดเหตุตรงกับวันที่ 16 ตุลาคม 2567 เป็นวันที่หวยออก ทักแชตไปซื้อลอตเตอรี่กับพ่อค้าคนนี้ช่วงบ่ายโมงกว่าๆ โดยทักถามพ่อค้าว่ามีลอตเตอรี่ลงท้ายด้วย 962 ไหม และเลขอื่นๆ พ่อค้าลอตเตอรี่ส่งรูปลอตเตอรี่มาให้ดู จึงตกลงซื้อขาย พร้อมเก็บภาพหลักฐานเป็นลอตเตอรี่ ทั้งหมด 4 ใบ ไว้ ก่อนที่ตนจะทักแชตบอกพ่อค้าว่าตอนเย็นจะโอนเงินให้ได้ไหม เพราะที่ที่ตนอยู่ไม่ค่อยมีสัญญาณโทรศัพท์ พ่อค้าขายลอตเตอรี่ตอบกลับมาว่า “โอเคจ้า”

นายวรชัย กล่าวอีกว่า ที่ไว้ใจและโอนเงินให้ช้า เพราะซื้อลอตเตอรี่กับพ่อค้าคนนี้กันมานานตั้งแต่ปี 65 อีกทั้งเชื่อใจกัน เพราะว่าเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กเลยไม่คิดว่าจะโกง กระทั่งช่วงกองสลากประกาศผลรางวัล ตนทำงานอยู่เลยไม่ได้ดูหรือฟังการออกรางวัล รู้เพียงแค่เลข 3 ตัวท้ายรางวัลที่ 1 ตรงกับสลากที่ตนซื้อไว้ แต่ไม่รู้เลข 3 ตัวหน้า แต่พอทำงานเสร็จจึงได้มาเช็กอีกทีถึงรู้ว่าถูกรางวัลที่ 1 จึงรีบทักมาถามพ่อค้าขายลอตเตอรี่ พ่อค้าก็ตอบกลับมาว่า “ใช่เอ็งถูกรางวัลที่ 1” ตอนนั้นรู้สึกดีใจมากจนทำอะไรไม่ถูก แต่สักพักพอพ่อค้าลอตเตอรี่ทักแชตตอบกลับมาว่า “เอาเลขบัญชีมาเดี๋ยวไปขึ้นเงินแล้วโอนให้” ก็รู้สึกเอะใจจึงโทรฯกลับและบอกว่า “ไม่เป็นไรเดี๋ยวขับรถมาเอาไปขึ้นเงินเอง” หลังจากนั้นก็ติดต่อพ่อค้าที่ขายลอตเตอรี่ไม่ได้ จึงกังวลใจนำหลักฐานทั้งหมดไปแจ้งความที่ สภ.จะกง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำหนังสือขออายัดการขึ้นเงินลอตเตอรี่ไว้กับกองสลากแล้ว

นายวรชัย กล่าวอีกว่า กระทั่งล่าสุดเมื่อเช้าวันนี้ (18 ต.ค.) ได้โทรฯไปหาพ่อค้าขายลอตเตอรี่อีกครั้ง พ่อค้าลอตเตอรี่ถามกลับมาว่า จะให้เปอร์เซ็นต์เท่าไหร่ และจะไปขึ้นเงินให้เองเพราะเซ็นสลักหลังเป็นชื่อพ่อค้าไว้แล้ว ตนจึงบอกว่าไม่เป็นไรไปขึ้นเงินกันสองคนก็ได้ และบอกให้ไปเจอกันที่ สภ.จะกง วันนี้ เพื่อที่จะเคลียร์กันให้เสร็จต่อหน้าพนักงานสอบสวน เบื้องต้นก็ยังเป็นกังวลใจอยู่ว่าจะได้ลอตเตอรี่คืนมาหรือไม่ เพราะลอตเตอรี่อยู่ในมือของพ่อค้า แต่ตนก็มีหลักฐานในการซื้อขายตกลงพูดคุยกันชัดเจน อยากฝากบอกพ่อค้าลอตเตอรี่ว่าการซื้อขายเราซื้อด้วยความบริสุทธิ์ใจ เรามีหลักฐานชัดเจน ตนไม่ได้ไปยักยอกใครมา ถ้าคิดจะโกงอย่าทำเลยดีกว่า อยากให้เอาลอตเตอรี่มาคืน ถ้าคืนแล้วตนก็จะได้ถอนแจ้งความให้ และให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาพ่อค้าลอตเตอรี่รายดังกล่าวได้มาที่โรงพักเพื่อคืนลอตเตอรี่ให้ผู้เสียหายแต่โดยดี แต่ติดปัญหาตรงที่มีการเซ็นชื่อสลักหลังลอตเตอรี่ไว้ อยู่ระหว่างตำรวจดำเนินการเรื่องเอกสารเพื่อนำไปเป็นหลักฐานในการขึ้นเงินรางวัลต่อไป