เมื่อวันที่ 17 ต.ค.67 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) โดย สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ “GISTDA” จัดแถลงข่าวงาน Thailand Space Week 2024 “Converging Technologies, Connecting People” ณ โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท กรุงเทพฯ โดยจับมือกับพันธมิตรแข็งแกร่งอย่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย, บริษัท SIEMENS, THAICOM, บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), ISPACE and Cabinet office of Japan และหน่วยงานอื่นๆ อีกมากมายกว่า 30 บริษัท ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างให้เป็นเวทีแห่งการเชื่อมโยงเทคโนโลยีขั้นสูงและผู้คนเข้าไว้ด้วยกัน รวมถึงอัปเดตเทรนด์อวกาศที่น่าสนใจ และการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอวกาศในปัจจุบัน

ทั้งนี้ Thailand Space Week ถือเป็นเวทีด้านกิจการอวกาศที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยภายในงานได้รับเกียรติจากน.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เป็นประธานการแถลงข่าวการจัดงาน
 
น.ส.ศุภมาสกล่าวว่า การจัดงาน “Thailand Space Week 2024” ถือเป็นวาระสำคัญของประเทศภายใต้กรอบนโยบายเรื่องการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงอย่างเทคโนโลยีอวกาศ และอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมในประเทศ เพื่อให้เป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและยกระดับศักยภาพการแข่งขันของประเทศ ซึ่ง กระทรวง อว. มีความตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะให้งาน Thailand Space Week เป็นงานที่คนไทยและคนต่างชาติให้ความสำคัญและเฝ้ารอที่จะร่วมงานเป็นประจำทุกปี เช่นเดียวกับงาน IAC หรืองาน World Space Week
 
ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์หลากหลายกิจกรรม ประกอบด้วย การบรรยายโดยวิทยากรระดับแนวหน้า นิทรรศการด้านอวกาศจากภาครัฐ และเอกชน การจับคู่เชิงธุรกิจ เพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างรัฐบาล หน่วยงานอวกาศระดับนานาชาติ ผู้กำหนดนโยบาย ผู้เชี่ยวชาญ นักธุรกิจ จากทั่วทุกมุมโลก แสดงให้เห็นถึงบทบาทของประเทศไทยที่พร้อมเป็นศูนย์กลางด้านการพัฒนาและขับเคลื่อนภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีอวกาศเพื่อสร้างโอกาสและประโยชน์ให้กับภูมิภาคนี้

“กระทรวง อว. ในฐานะกระทรวงหลักที่กำกับดูแลหน่วยงานด้านเทคโนโลยีอวกาศของประเทศจะใช้โอกาสจากการจัดงาน “Thailand Space Week 2024” เร่งสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษาทั้งในและต่างประเทศ สู่การเป็นประเทศผู้พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมอวกาศระดับโลกในอนาคต” น.ส.ศุภมาส กล่าว

ทางด้าน ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ GISTDA กล่าวว่า งาน “Thailand Space Week 2024” จะเป็นเวทีที่แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศในอนาคต เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางสังคมและเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งเชื่อมต่อเทคโนโลยีขั้นสูงไปยังกลุ่มผู้ประกอบการ และผู้เล่นหลักในชุมชนอวกาศระดับโลก ที่จะมีการสื่อสารและแลกเปลี่ยนกับผู้นำด้านอวกาศ ผู้เชี่ยวชาญ นักธุรกิจ นักลงทุน เพื่อให้เกิดการแบ่งปันประสบการณ์ การแลกเปลี่ยนความรู้ รวมถึงพัฒนาธุรกิจและตลาดร่วมกัน

โดยวางเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของการเชื่อมโยง อวกาศ-โอกาส จากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าหมายว่าจะมีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมงานมากกว่า 4,000 คน ทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ นักธุรกิจ นักลงทุน ผู้ประกอบการ สถาบันการศึกษา ตลอดจนผู้สนใจด้านเทคโนโลยีอวกาศทั้งในและต่างประเทศ

สำหรับโฮไลท์สำคัญอยู่ที่การได้รับเกียรติจาก Keynote Speakers ที่จะมาร่วมแสดงวิสัยทัศน์ การบรรยายพิเศษ ทั้งในมิติของนโยบาย ธุรกิจและเทคโนโลยี ทั้งทางด้านการสำรวจอวกาศ เทคโนโลยีดาวเทียม โครงสร้างพื้นฐานด้านอวกาศ ตลอดจนการประยุกต์ใช้งาน, การแสดงนิทรรศการด้านอวกาศที่แสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการความก้าวหน้าและความล้ำสมัยของเทคโนโลยีขั้นสูง การทำBusiness Matching ร่วมกันเพื่อสร้างเครือข่ายกับผู้นำในอุตสาหกรรมอวกาศ นักธุรกิจระดับโลก กลุ่มสตาร์ทอัพ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหา Partners ในการทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีอวกาศ 
 

งาน Thailand Space Week 2024 จะเป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำสำหรับผู้เข้าร่วมในอุตสาหกรรมอวกาศทั่วโลกและตั้งเป้าที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่สำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรม เทคโนโลยีอวกาศในการแข่งขันระดับโลก งานนี้จะเป็นการสร้างโอกาสให้กับประเทศไทย ในการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมอวกาศ และประเทศไทยจะนำเสนอศักยภาพเพื่อเตรียมตัวรองรับกัับการเป็น Space Hub ในภูมิภาคอาเซียนต่อไป
 
สำหรับงาน Thailand Space Week 2024 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-9 พ.ย.67 ตั้งแต่เวลา 09.00 –17.00 น. ณ ฮอลล์ 9-10 อิมแพค เมืองทองธานี สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงาน และอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ tsw.gistda.or.th หรือติดตามผ่านเฟสบุ๊กของ GISTDA