สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ว่า จากกรณีกระทรวงสาธารณสุขของเลบานอน ยืนยัน การพบผู้ป่วยอหิวาตกโรคจากเมืองอัมมูนิเยห์ ซึ่งอยู่ทางเหนือของประเทศ และไม่มีประวัติการเดินทางนั้น

นพ.อับดินาซีร์ อาบูบาการ ผู้แทนดับเบิลยูเอชโอในเลบานอน เตือนว่า การระบาดอาจแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว เนื่องจากพื้นที่ชายแดนตอนเหนือของประเทศ มีผู้พลัดถิ่นหลายแสนคน ที่กำลังหนีภัยจากการโจมตีกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ของอิสราเอล ซึ่งเน้นไปที่พื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศ

ก่อนหน้านี้ เลบานอนเคยเผชิญกับการระบาดของอหิวาตกโรคครั้งแรกในรอบ 30 ปี ระหว่างปี 2565-2566 โดยศูนย์กลางการแพร่ระบาดคือภูมิภาคทางเหนือของประเทศ

ทั้งนี้ ดับเบิลยูเอชโอเตือนว่า มีความเป็นไปได้สูงมากที่เลบานอนจะเผชิญกับการแพร่ระบาดของอหิวาตกโรคอีกครั้ง เนื่องจากความเสื่อมโทรมของน้ำสะอาดและสุขอนามัย ในหมู่ผู้พลัดถิ่นและบริเวณชุมชนที่พวกเขาอาศัย

ขณะที่ชาวเลบานอนในพื้นที่ตอนเหนือ มีภูมิคุ้มกันหรือได้รับวัคซีนแล้ว ผู้คนจากชุมชนทางตอนใต้และพื้นที่เบรุต ไม่ได้รับวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่ออหิวาตกโรคมาเป็นเวลาถึง 30 ปี ซึ่งอาจนำไปสู่ “ความเสี่ยงสูง” ที่จะเกิดการแพร่ระบาด

นพ.เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการดับเบิลยูเอชโอ กล่าวว่า หน่วยงานได้เพิ่มระดับการเฝ้าระวัง และติดตามการดำเนินการ รวมถึงด้านสิ่งแวดล้อมและการเก็บตัวอย่างน้ำ

อนึ่ง เมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขเลบานอนเปิดตัวโครงการ “วัคซีนป้องกันอหิวาตกโรคแบบรับประทาน” โดยตั้งเป้าหมายประชาชนในพื้นที่เสี่ยง 350,000 คน.

เครดิตภาพ : AFP