เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึง ความคืบหน้าในการจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เกี่ยวกับธุรกิจออนไลน์ ว่า ให้มีการเริ่มตรวจสอบในทันที เนื่องจากเรื่องนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน และมีผู้ที่ได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก โดยมีการกำหนดกรอบระยะเวลาในการตรวจสอบเป็นเวลา 30 วัน และจะต้องรายงานกลับเข้ามาเป็นระยะ ซึ่งการวางกรอบไว้ 30 วัน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วน และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย รวมถึงมีผู้เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก จึงอาจจะต้องใช้ระยะเวลา แต่จะพยายามทำโดยเร็ว และหลังจากทราบผลการสอบสวนจากคณะกรรมการชุดนี้แล้ว จะมีการกำหนดโทษต่อไป

เมื่อถามว่าหากตรวจสอบนี้แล้วเสร็จ จะเป็นการสังคายนาโครงสร้างภายใน สคบ. เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือมากขึ้น นายประเสริฐ กล่าวว่า จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้มากขึ้น เนื่องจากคณะทำงานแต่ละคนมีประสบการณ์ และเคยทำคดีเกี่ยวกับเศรษฐกิจสำคัญมาหลายคดี จึงมีความมั่นใจ และตนได้สั่งการให้มีการดำเนินการด้วยความรัดกุม อย่าให้มีเรื่องของผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง เมื่อถามอีกว่าคณะกรรมการชุดนี้จะสามารถลบคำว่า “เทวดา สคบ.” ได้หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า “ต้องลบให้ได้ เรื่องนี้ต้องไม่มี”

ผู้สื่อข่าวถามว่าเท่าที่ดูรายละเอียดขณะนี้ พบเบาะแสผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องใช่หรือไม่ จึงจัดตั้งคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมา นายประเสริฐ กล่าวว่า เรื่องนี้จะมีการดำเนินการตามที่ปรากฏในคลิปเสียง หรือการนำเสนอข่าว หากมีการพาดพิง หรือใครที่อยู่ในข่ายต้องสงสัย จะต้องมีการดำเนินการอย่างเฉียบขาด ไม่ให้เกิดเรื่องการทุจริตในหน้าที่ เพราะถือว่าทำความเสียหายในวงกว้างต่อประชาชน ส่วนกรณีที่มีรายชื่อนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง คณะกรรมการชุดนี้ก็สามารถเรียกมาชี้แจงได้เช่นกัน ไม่ต้องห่วง แต่เราให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

เมื่อถามว่าจะต้องสั่งการให้บุคคลในสคบ.ที่มีชื่อเข้าไปเกี่ยวข้อง หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ขอให้ดูผลของการตรวจสอบของคณะกรรมการชุดนี้ก่อนว่าเป็นอย่างไร เพราะตนต้องการให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่ใช่ไปฟังมาแล้วไปดำเนินการทันที แต่ขอยืนยันว่าไม่ปกป้องผู้กระทำความผิด

เมื่อถามว่านอกจากกรณีของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป แล้วมีคดีอื่นๆ ที่สังคมตั้งข้อสงสัย จะสังคายนารวมกันไปเลยหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า วันนี้ขอเร่งคดีนี้ก่อน เนื่องจากระบบการทำธุรกิจประเภทนี้ มีจำนวนมาก และบางเรื่อง ก็ยังไม่ได้เกิดความเสียหาย เพราะฉะนั้นเรื่องที่มีประชาชนร้องเรียนขึ้นมา เป็นเรื่องที่ต้องเร่งดำเนินการ แต่หากดำเนินการทีเดียวพร้อมกันหลายเรื่อง คงจะต้องใช้ระยะเวลานานขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่าคณะกรรมการชุดนี้จัดตั้งขึ้นมาเพื่อคดีนี้โดยเฉพาะ หรือให้อยู่ต่อไปเพื่อให้ทำคดีในลักษณะนี้ด้วย นายประเสริฐ กล่าวว่า ให้ทำคดีนี้ก่อน แต่คดีต่อไปอาจจะเป็นคณะกรรมการชุดนี้ก็ได้ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถนำผลสอบจากคณะกรรมการชุดนี้ไปประกอบสำนวนคดีได้.