เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ที่อาคารรัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า หวังว่าวันนี้กรรมาธิการจะได้มีโอกาสนำเสนอรายงานผลการศึกษาของกรรมาธิการต่อที่ประชุมสภา เพราะกรรมาธิการเตรียมพร้อมรอไว้แล้ว หวังว่าจะไม่มีวาระอะไรมาแทรก ทั้งนี้เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ได้รับการยืนยันจากคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ว่าวันนี้จะมีการนำเสนอรายงานของกรรมาธิการแน่นอน เป็นโอกาสที่ดีซึ่ง สส. ทุกฝ่ายจะได้รับฟังข้อเสนอของกรรมาธิการ ซึ่งเป็นความคิดเห็นจากทุกฝ่ายจริงๆ ไม่ใช่แค่ของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง

ส่วนที่ผ่านมาเคยมีการเลื่อนพิจารณารายงานดังกล่าวมาแล้วถึง 2 ครั้ง เพื่อให้พรรคการเมืองต่างๆ พูดคุยกันให้ตกผลึกก่อน นายชัยธวัช กล่าวว่า เท่าที่ทราบในฝั่งพรรคฝ่ายค้านไม่ได้มีการนัดพูดคุยกันกับฝ่ายรัฐบาลแต่ฝ่ายรัฐบาลเองจะมีการพูดคุยอย่างไรก็ไม่ทราบ แต่ขอยืนยันอีกครั้งว่าการตกผลึกเรื่องนี้ควรจะเกิดขึ้นภายหลังจากฟังรายงานฉบับนี้

“ในทางกลับกัน หากชะลอหรือเลื่อนการนำเสนอรายงานออกไปอีก ก็จะทำให้การตกผลึกของสังคมในเรื่องนี้ช้าออกไป” นายชัยธวัชกล่าว

เมื่อถามว่าในที่ประชุมจะต้องมีการลงมติหรือไม่หากมีความเห็นต่าง นายชัยธวัช กล่าวว่า  รายงานของกรรมาธิการไม่ได้มีบทสรุป แต่เป็นข้อเสนอที่รวมความเห็นจากทุกฝ่ายไว้ด้วยกันโดยที่ไม่ได้ตัดให้เหลือเพียงแนวทางใดแนวทางหนึ่ง และคาดหวังหลังเสนอรายงานแล้ว จะเป็นการฟังความเห็นของ สส. และยังเป็นการได้รับฟังความเห็นของสังคม เพื่อให้เกิดการตกผลึก ก่อนนำไปสู่การนำเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ของแต่ละพรรคการเมืองที่มีวาระเตรียมเสนอต่อที่ประชุมสภาไว้แล้ว

“ผมยังหวังว่าสภา น่าจะเห็นชอบกับรายงาน รวมถึงข้อสังเกตในการคลี่คลายความขัดแย้งเฉพาะหน้า ระหว่างที่ยังไม่มี พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งความจริงไม่มีเหตุที่จะต้องลงมติไม่เห็นชอบ เพราะไม่ใช่ข้อเสนอที่มีแนวความคิดเดียว แต่เป็นรายงานที่เป็นข้อเสนอทางเลือกเชิงนโยบายมากกว่า” นายชัยธวัชกล่าว

สำหรับบางพรรคการเมืองที่มีจุดยืนชัดเจนว่าจะไม่สนับสนุนการนิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 นายชัยธวัช กล่าวว่า ในรายงานฉบับนี้ก็มีข้อเสนอที่ไม่นิรโทษกรรม มาตรา 112 ด้วย และมีการประเมินทั้งข้อดีข้อเสีย รวมถึงมีพื้นที่ตรงกลางอย่างมีนิรโทษกรรมมาตรา 112 แบบมีเงื่อนไข เนื่องจากเป็นประเด็นที่มีความอ่อนไหวทางการเมือง ซึ่งสุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับการเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ของแต่ละฝ่ายอยู่ดี

นายชัยธวัช ยังกล่าวว่า หลังจากสภาได้พิจารณารายงานฉบับนี้แล้ว ยังมีร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม รออยู่อีก 4 ฉบับ คือฉบับของอดีตพรรคก้าวไกล ฉบับที่พรรคประชาธิปัตย์และพรรคครูไทยเพื่อประชาชนเสนอร่วมกัน ฉบับของพรรครวมไทยสร้างชาติ และฉบับของภาคประชาชน อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวในฐานะกรรมาธิการ ก็เห็นและเข้าใจความกังวลของพรรคการเมืองต่างๆ รวมถึงฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย หรือเห็นด้วยบ้างในบางคดี จึงนำมาสู่ข้อเสนอทางเลือกที่ 3 ให้มีพื้นที่ตรงกลาง ให้มีกลไกพิจารณาการนิรโทษกรรมเป็นรายคดีไป

“ผมเองเห็นว่าข้อเสนอนี้น่าจะเป็นข้อเสนอที่ดี ในแง่ที่เข้าใจทั้งสองฝ่าย ดังนั้น กลไกในการพิจารณาแบบมีเงื่อนไข น่าจะเป็นแนวทางที่ทำให้สร้างความเชื่อใจซึ่งกันและกันได้มากขึ้น รวมถึงมีเงื่อนไขที่ทำให้ยอมรับกันได้ ส่วนตัวจึงมองว่าเป็นข้อเสนอที่ดีในสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน” นายชัยธวัช กล่าว.