เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 67 ที่รัฐสภา นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม ยื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ติดตามตรวจสอบเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี โดยมีนายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์   โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นตัวแทนมารับหนังสือ

นายแทนคุณ กล่าวว่า เหตุรถบัสทัศนศึกษาไฟไหม้ เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 67 ที่ผ่านมา นำมาซึ่งความสูญเสียครั้งใหญ่ของประเทศไทย และสร้างความเจ็บปวดแก่ประชาชนทั้งประเทศ โดยในแต่ละปีมีนักเรียน นักศึกษาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไม่น้อยกว่า 2,000 ราย ไทยเป็นอันดับ 2 ของโลก ที่มีสถิติการเสียชีวิตบนท้องถนน ซึ่งตนได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสาเหตุของโศกนาฏกรรมดังกล่าว นอกจากเกิดจากความไม่ปกติของตัวรถที่มีการติดตั้งถังบรรจุแก๊ส CNG เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดแล้ว ยังได้รับแจ้งเบาะแสว่า สาเหตุที่บริษัทต้องมีการปรับปรุงรถให้เป็นไปในสภาพดังกล่าว อาจจะมีความเป็นไปได้ว่ามีการเรียกรับและจ่ายสินบนหรือเงินทอนจากงบประมาณจัดจ้างรถบัสไปทัศนศึกษา จนเป็นเหตุให้ต้องมีการกดราคาและคุณภาพของรถบัส อาจจะมีการทุจริตคอร์รัปชั่นในเรื่องงบประมาณการดำเนินการเกี่ยวกับรถโดยสารขนส่งนักเรียนและครูแบบครบวงจรหรือไม่   

นายแทนคุณ กล่าวว่า โดยจากข้อมูลที่ผู้ประกอบการรถโดยสารรับจ้างได้ให้ไว้ พบว่า ทางบริษัทรถต้องยอมจ่ายเงินทอนคืนให้กับผู้บริหารโรงเรียน เพื่อให้ได้งานหรือไม่ ซึ่งเงินในส่วนนี้คิดเป็นกว่าร้อยละ 40 ของเงินงบประมาณในการจัดจ้าง ทำให้ผู้ประกอบการต้องลดต้นทุนโดยการจัดหารถที่มีคุณภาพ มาตรฐานต่ำ อายุการใช้งานที่นานมาก หรือมีการดัดแปลงปรับแต่งเพิ่มถังก๊าซ เพื่อให้เดินทางได้ระยะทางที่ไกลขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาแวะเติมเชื้อเพลิง การขาดอุปกรณ์ในการดับเพลิง ประตูฉุกเฉินที่ใช้ไม่ได้จริง รวมทั้งเหตุปัจจัยต่างๆ เช่น ความประมาทและขาดทักษะในการช่วยเหลือผู้โดยสาร และอาจเกี่ยวข้องกับการรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการที่กระทำผิด หรือการไม่มีมาตรการที่รอบคอบ รัดกุม ในการตามสุ่มตรวจรถโดยสารที่ต้องรับจ้างให้กับสถานศึกษาต่างๆ

“ขอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีแนวทางในการตรวจสอบเบาะแสต่างๆ ทั้งผ่านกลไกรัฐสภา และประสานไปยังรัฐบาล เพื่อให้ดำเนินการขยายผลการตรวจสอบเกี่ยวกับกรณีที่อาจมีการทุจริตงบประมาณในการจัดจ้างรถโดยสารสำหรับนักเรียน นักศึกษา ไม่ใช่ เฉพาะกรณีที่เกิดเหตุแต่รวมถึงกรณีอื่นๆ ทั่วประเทศ การกำหนดมาตรการความปลอดภัย สำหรับรถที่ต้องรับส่งนักเรียน ให้มีสัญลักษณ์และสัญญาณไฟที่แสดงให้เห็นเด่นชัด การกำหนดมาตรการความปลอดภัยสำหรับรถโดยสารที่ต้องใช้แก๊ส การสร้างวินัยในการเคารพและบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัดและจริงจัง โดยเฉพาะมาตรการในการดูแลเด็กเล็ก หรือ child restraint การออกกฎหมายที่ห้ามเด็กนั่งข้างหน้า การจัดหาอุปกรณ์ที่เหมาะสมสำหรับอายุ สัดส่วนของเด็ก และการเข้มงวดกวดขันกับเรื่องการตรวจจับและดำเนินคดีกับผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อระงับยับยั้งความเสียหายที่อาจจะเกิดกับเด็ก นักเรียนนักศึกษาบนท้องถนน ซึ่งจะเป็นทรัพยากรบุคคลที่สำคัญที่สุดของประเทศชาติบ้านเมืองต่อไป” นายแทนคุณ กล่าว.