นางสุภาพร ลีนะบรรจง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (บลจ.กรุงศรี) เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดเสนอขายกองทุน RMF (กองทุนรวม เพื่อการเลี้ยงชีพ) ใหม่ 4 กองทุน ซึ่งคัดสรรมาจากธีมการลงทุนที่มีโอกาสเติบโตสูง รับดอกเบี้ยขาลง และจัดการความผันผวนได้ดี ได้แก่ กองทุน KFSINCFXRMF, KFWINDXRMF, KFGLOBALRMF และ KFGLOBFXRMF เพื่อเพิ่มทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการลดความเสี่ยงให้กับพอร์ต และผู้ที่เน้นโอกาสรับผลตอบแทนสูงจากหุ้นชั้นนำทั่วโลก ไปพร้อมสิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยเสนอขายครั้งแรกวันที่ 15-22 ต.ค. นี้

สำหรับ 4 กองทุน ได้แก่

– กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลสมาร์ทอินคัมเอฟเอ็กซ์เพื่อการเลี้ยงชีพ (KFSINCFXRMF): มีนโยบายลงทุนในกองทุนหลัก PIMCO GIS Income Fund กระจายการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลกทั้งภาครัฐและเอกชน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นคง ไม่ต้องการเสี่ยงสูง โดยกองทุนหลักได้รับ Morningstar Rating 5 ดาว (ที่มา Morningstar Rating จาก PIMCO ณ 31 ก.ค. 67 ผลการดำเนินงานอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต/รางวัลและการจัดอันดับดังกล่าว ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการจัดอันดับของสมาคมบริษัทจัดการลงทุนแต่อย่างใด)

– กองทุนเปิดกรุงศรีเวิลด์อิควิตี้อินเด็กซ์เพื่อการเลี้ยงชีพ (KFWINDXRMF): มีนโยบายลงทุนในกองทุนหลัก iShares MSCI ACWI ETF ที่อ้างอิงดัชนี MSCI ACWI ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกกว่า 1.88 หมื่นล้านดอลลาร์ กระจายการลงทุนในหุ้นทั่วโลกกว่า 2,000 บริษัท ทั้งในตลาดพัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการโอกาสจากการเติบโตของดัชนีหุ้นโลก

– กองทุนเปิดกรุงศรี Global Unconstrained Equity เพื่อการเลี้ยงชีพ (KFGLOBALRMF) และ กองทุนเปิดกรุงศรี Global Unconstrained Equity FX เพื่อการเลี้ยงชีพ (KFGLOBFXRMF) : ทั้งสองกองทุนมีนโยบายลงทุนในกองทุนหลัก BlackRock Global Unconstrained Equity Fund ซึ่งได้รับ Morningstar Rating 5 ดาว (ที่มา Morningstar rating จาก BlackRock ณ 31 ส.ค. 67 ผลการดำเนินงานอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต/รางวัลและการจัดอันดับดังกล่าว ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการจัดอันดับของสมาคมบริษัทจัดการลงทุนแต่อย่างใด) กองทุนหลักมุ่งเน้นการคัดเลือกหุ้นคุณภาพจากทั่วโลก โดยไม่จำกัดประเภทหุ้น อุตสาหกรรม หรือดัชนีชี้วัด เพื่อโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดี บนระดับความผันผวนที่ไม่มากจนเกินไปทั้งในวัฏจักรเศรษฐกิจขาขึ้นและขาลง

โดยกองทุนหลักจะแบ่งสัดส่วนโดยประมาณ 50% ของพอร์ต ลงทุนในธุรกิจที่มีความทนทานต่อวัฏจักรเศรษฐกิจ เพื่อสร้างเกราะป้องกันในช่วงเศรษฐกิจขาลง ส่วนที่เหลือกระจายการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโตสูง โดยมุ่งเน้น 3 ธีมหลัก ได้แก่ 

1) บริษัทที่มีแบรนด์แข็งแกร่งและเป็นผู้นำตลาด 

2) บริษัทมีเทคโนโลยี หรือนวัตกรรมที่น่าสนใจ 

3) บริษัทมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ทั้งนี้ พอร์ตการลงทุนของกองทุนหลัก เน้นการลงทุนในประเทศพัฒนาแล้ว โดยเฉพาะในสหรัฐ และยุโรป