เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ที่รัฐสภา นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.พรรคประชาชาติ พร้อมด้วย สส. ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พรรคประชาชาติ แถลงถึงความห่วงใยของพรรคประชาชาติ ต่อกรณีตากใบ ว่า ตนเข้าใจในความรู้สึกของประชาชนในพื้นที่ และประชาชนของประเทศ ที่มีความห่วงใยที่ติดตามคดีตากใบมาตลอด โดยในคดีนี้มีผู้เสียชีวิต 85 ราย ทุพพลภาพ 51 ราย และมีผู้ถูกคุมตัวกว่า 1,280 ราย ในขณะที่คดีความเหลือเพียง 9 วัน ก็จะครบ 20 ปี หมดอายุความไป ซึ่งพรรคประชาชาติมีมีการติดตามการพิจารณาคดีมาโดยตลอด จึงอยากเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงความคืบหน้าในการติดตามตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 คนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว

นายกมลศักดิ์ กล่าวต่อว่า การที่ศาลจังหวัดนราธิวาสนัดสอบคำให้การจำเลย เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งจำเลยทั้ง 7 คน ที่มีหมายจับ ไม่มีใครเดินทางไปศาลเลย แต่ศาลยังไม่ได้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ยังมีนัดสอบคำให้การจำเลยอีกครั้งในวันที่ 28 ต.ค. นี้ และส่งหนังสือสอบถามความคืบหน้าของการปฏิบัติตามหมายจับ ไปที่หน่วยงานที่ศาลมีคำสั่งให้ปฏิบัติตามหมายจับ ในขณะที่อายุความของคดีตากใบ มีถึงแค่วันที่ 25 ต.ค. เท่านั้น  

ได้นัดสอบคำให้การจำเลยอีกครั้งในวันที่ 28 ต.ค. นี้ แต่อายุความของคดีตากใบมีถึงแค่วันที่ 25 ตุลาคม จึงเป็นที่น่าสังเกตว่าในการติดตามคดีนี้ ศาลจังหวัดนราธิวาสมีความห่วงใยส่งหนังสือสอบถามความคืบหน้าของการปฏิบัติตามหมายจับไปที่หน่วยงานที่ศาลมีคำสั่งให้ปฏิบัติตามหมายจับ สะท้อนให้เห็นว่าศาล ก็อยากให้กระบวนการยุติธรรมตรงนี้ไปต่อ ตนจึงขอวิงวอนสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงความคืบหน้าในการติดตามจับกุมจำเลยผู้ต้องหาว่าไปถึงไหน และอย่านำประเด็นที่ใกล้ขาดอายุความโยนความผิดให้กับประชาชนที่เรียกร้องความยุติธรรม แม้หลายคนพยายามโยงว่า ทำไมเพิ่งมาฟ้องตอนที่คดีจะขาดอายุความ เพราะคดีตากใบได้รับเงินเยียวยาไปแล้วในปี 2556 จึงขอชี้แจงว่า การเยียวยาที่เกิดขึ้นตอนนั้น ไม่ได้ทำให้คดีอาญาถูกระงับ ดังนั้นจึงสามารถเรียกร้องสิทธิทางอาญาได้

“ระยะเวลาที่เหลือ 9 วัน พรรคประชาชาติ มีความห่วงใยในฐานะที่อยู่ในพื้นที่ อยากให้เกิดกระบวนการยุติธรรม อยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นำตัวจำเลยและผู้ต้องหา หรือจำเลยหรือผู้ต้องหาที่ฟังอยู่ ก็สามารถไปพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของท่าน ไม่ได้หมายความว่าศาลประทับฟ้องแล้ว ตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว ท่านจะเป็นผู้กระทำความผิด แต่อยากให้ท่านเดินหน้าผดุงความยุติธรรมใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่าก่อให้เกิดเงื่อนไขขึ้นมาใหม่ในพื้นที่ เราเป็นห่วงกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่จากอดีต ปัจจุบัน ถึงอนาคต ที่จะกลายเป็นเงื่อนไขใหม่กับกรณีคดีตากใบ” นายกมลศักดิ์ กล่าว

เมื่อถามว่า หากจำเลยทั้งหมดไม่ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และทางรัฐบาลก็ไม่มีความกระตือรือร้นที่จะติดตามตัวกลับมา หลังจากนี้จะดำเนินการอย่างไรต่อ นายกมลศักดิ์ กล่าวว่า นี่คือสิ่งที่พรรคประชาชาติเป็นห่วง สิ่งที่อยากเห็นตอนนี้คือ หน่วยงานที่รับผิดชอบแถลงข่าวให้ชัดเจนว่าการติดตามจับกุมไปถึงไหน อย่างไร ทั้งนี้หลังวันที่ 25 ต.ค. นี้ ไม่สามารถจับกุมอะไรได้เลย และศาลก็ไม่สามารถสืบพยานได้ อัยการไม่สามารถส่งฟ้องได้ นี่คือสิ่งที่พรรคประชาชาติเป็นห่วง

นายกมลศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี ลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยนั้น ก็เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย ไม่ขอก้าวก่าย แต่มีประเด็นที่สังคมตั้งข้อสงสัย ซึ่งต้องมีการชี้แจง คือหนังสือลาออกนั้นส่งมาได้อย่างไร ทั้งนี้ ส่วนตัวตอนที่อยู่สภา ไม่ค่อยได้เจอ พล.อ.พิศาล เนื่องจากอยู่กรรมาธิการคนละคณะ แต่อาจจะมีการเดินสวนทางกันในห้องประชุม แต่ไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว.