การตัดสินใจเลือกซื้อคอนโดนั้นไม่แตกต่างกับการซื้อบ้าน โดยเราจะต้องเลือกอย่างรอบคอบและเหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของตัวเองจริง ๆ ซึ่งก่อนที่ทุกคนจะตัดสินใจซื้อคอนโดกันนั้น จะต้องรู้ความแตกต่างสำคัญระหว่างคอนโด Low-rise และ High-rise ที่ส่งผลกับรูปแบบการใช้ชีวิต บรรยากาศของคอนโด และราคาของคอนโด การทำความเข้าใจถึงจุดเด่นและข้อจำกัดของคอนโดแต่ละประเภท จะช่วยให้เราสามารถประเมินได้ว่าแบบไหนเหมาะกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของเรามากที่สุด


คอนโด Low-rise VS High-rise มีข้อดี ข้อเสีย อะไรบ้าง

คอนโด Low-rise และ High-rise มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยทั่วไปแล้วคอนโด Low-rise จะมีความสูงไม่เกิน 8 ชั้น ในขณะที่ High-rise จะมีความสูงมากกว่า 8 ชั้นขึ้นไป จึงทำให้มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันด้วย ดังนี้


ข้อดี

  • คอนโด Low-rise มีข้อดีมากมายจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและบรรยากาศที่เงียบสงบ เนื่องจากมีจำนวนยูนิตน้อยกว่า ทำให้มีความวุ่นวายน้อยลงและรู้สึกเหมือนอยู่บ้านมากกว่า การเข้า-ออกสะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องรอลิฟต์นาน ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับผู้ที่ไม่ชอบความแออัดหรือมีสัตว์เลี้ยง ส่วนกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น ไฟไหม้หรือแผ่นดินไหว การอพยพออกจากอาคารทำได้ง่ายและรวดเร็วกว่า นอกจากนี้ คอนโด Low-rise บางโครงการยังมีพื้นที่สีเขียวมากกว่า ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติ ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตและทำให้ความรู้สึกผ่อนคลายได้มากขึ้น
  • คอนโด High-rise มีข้อดีที่โดดเด่นไม่แพ้กันโดยเฉพาะวิวที่สวยงามสำหรับห้องที่อยู่ชั้นสูง ๆ ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองได้กว้างไกล ช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายเหมาะกับการพักผ่อนนอกจากนี้ คอนโด High-rise มักมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันกว่า เช่น ฟิตเนสขนาดใหญ่ สระว่ายน้ำ สวนพักผ่อน และร้านค้าต่าง ๆ เนื่องจากมีพื้นที่ส่วนกลางมากกว่า ทำให้ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายโดยไม่ต้องออกไปไกลจากที่พัก และที่สำคัญคือทำเลที่ตั้ง คอนโด High-rise มักตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมือง ใกล้ระบบขนส่งสาธารณะ เช่น รถไฟฟ้า ทำให้สะดวกในการเดินทางไปทำงานหรือท่องเที่ยว


ข้อเสีย

  • คอนโด Low-rise ควรพิจารณาเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวก ซึ่งอาจมีจำกัดกว่าเมื่อเทียบกับคอนโด High-rise เนื่องจากมีพื้นที่ส่วนกลางน้อยกว่า ทำให้อาจไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกบางอย่าง เช่น สระว่ายน้ำขนาดใหญ่หรือฟิตเนสที่ทันสมัย นอกจากนี้ ทำเลที่ตั้งของคอนโด Low-rise อาจไม่ใช่ใจกลางเมืองเท่าคอนโด High-rise จึงอาจไม่สะดวกในการเดินทาง สำหรับผู้ที่ต้องการอยู่ใกล้แหล่งทำงานหรือสถานที่สำคัญ และอีกประเด็นหนึ่งที่ควรพิจารณาคือราคาของคอนโด โดยทั่วไปราคาต่อตารางเมตรของคอนโด Low-rise อาจสูงกว่าเมื่อเทียบกับคอนโด High-rise ในทำเลเดียวกัน เนื่องจากมีจำนวนยูนิตน้อยกว่า
  • คอนโด High-rise ปัญหาหลักที่มักพบบ่อยคือความแออัด เนื่องจากมีจำนวนยูนิตมาก ทำให้ในช่วงเวลาเร่งด่วน เช่น เช้าและเย็น อาจต้องรอลิฟต์นาน ซึ่งอาจเป็นปัญหาสำหรับผู้ที่ต้องเร่งรีบไปทำงาน นอกจากนี้ ความเป็นส่วนตัวอาจน้อยกว่าเมื่อเทียบกับคอนโด Low-rise เนื่องจากมีผู้อยู่อาศัยจำนวนมาก และอาจมีเสียงรบกวนจากเพื่อนบ้านมากกว่า โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน อีกประเด็นที่สำคัญคือเรื่องความปลอดภัยในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น ไฟไหม้หรือแผ่นดินไหว การอพยพออกจากอาคารอาจทำได้ยากกว่า โดยเฉพาะสำหรับผู้อยู่อาศัยในชั้นสูง ๆ ซึ่งอาจเป็นความเสี่ยงที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ


คอนโด Low Rise VS High Rise เลือกแบบไหนเหมาะกับเรา

การตัดสินใจเลือกระหว่างคอนโด Low-rise และ High-rise นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งไลฟ์สไตล์ งบประมาณ และความชอบส่วนตัวของแต่ละคน ตัวอย่างเช่น

  • คอนโด Low-rise เหมาะกับคนที่ชอบความเงียบสงบ ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง ไม่ชอบรอลิฟต์ ครอบครัวที่มีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ ซึ่งต้องการความสะดวกในการเข้า-ออกอาคาร
  • คอนโด High-rise เหมาะกับคนที่ชอบวิวสวย ๆ ของเมือง ต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน และชอบความสะดวกในการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ คนโสดหรือคู่รักที่เพิ่งเริ่มต้นชีวิตคู่

อย่างไรก็ตาม เราควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ประกอบด้วย เช่น งบประมาณ ทำเลที่ตั้ง และแผนการใช้ชีวิตในระยะยาว การเยี่ยมชมโครงการจริงและลองสัมผัสบรรยากาศของทั้งคอนโด Low-rise และ High-rise จะช่วยให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และมั่นใจว่าเราได้เลือกที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด