สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ว่า กระทรวงรวมชาติเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์ ประณามการที่เกาหลีเหนือระเบิดทำลายถนนกย็องกี และดงแฮ ที่อยู่ทางเหนือของแนวเส้นแบ่งเขตแดนทางทหาร (เอ็มดีแอล) บนคาบสมุทรเกาหลี เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เป็นการละเมิดข้อตกลงความร่วมมือสองเกาหลี ฉบับปี 2561 และเป็น “การกระทำที่ไม่ปกติอย่างมาก”
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2563 เกาหลีเหนือระเบิดทำลายศูนย์ประสานงานร่วมสองเกาหลี ซึ่งตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมแกซองของเกาหลีเหนือ อย่างไรก็ตาม งบประมาณทั้งหมดในการก่อสร้างศูนย์ประสานงานร่วมดังกล่าวมาจากเกาหลีใต้
ทั้งนี้ การระเบิดทำลายถนนทั้งสองเส้นทาง เกิดขึ้นหลังรัฐบาลเปียงยางระเบิดทำลายเส้นทางรถไฟที่ทอดยาวคู่กับถนนทั้งสองสาย เมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา โดยทางรถไฟและถนนสายกย็องกี เชื่อมกับเมืองปาจู ทางตะวันตกของเกาหลีใต้ และทางรถไฟและถนนสายดงแฮ เป็นเส้นทางที่เชื่อมแนวชายฝั่งทางตะวันออกของคาบสมุทรเกาหลี
ขณะที่งบประมาณในการก่อสร้าง รวมถึงสินเชื่อที่เกาหลีใต้อนุมัติให้แก่เกาหลีเหนือ 133 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4,434.22 ล้านบาท) ซึ่งกระทรวงรวมชาติเกาหลีใต้กล่าวว่า รัฐบาลเปียงยางยังคงค้างชำระ
ด้านผู้สันทัดกรณีเกี่ยวกับสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลี ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า การระเบิดทำลายถนนของเกาหลีเหนือครั้งนี้ เป็นเจตนาของนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ในการสื่อสารถึงเกาหลีใต้ว่า “ไม่ต้องการเจรจา”
บรรยากาศบนคาบสมุทรเกาหลีตึงเครียดขึ้นอีกระดับ เมื่อ น.ส.คิม โย-จอง น้องสาวของนายคิม จอง-อึน กล่าวว่า หากมีการพบเห็นโดรนของเกาหลีใต้ในเขตน่านฟ้าของเกาหลีเหนืออีก “แม้เพียงครั้งเดียว” รัฐบาลโซลจะ “เผชิญกับหายนะ” โดยรัฐบาลเปียงยางกล่าวว่า โดรนของเกาหลีใต้ละเมิดน่านฟ้าอย่างน้อย 3 ครั้งแล้วในเดือนนี้ และบินมาถึงกรุงเปียงยาง เพื่อโปรยใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อโจมตีเกาหลีเหนือ
อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์ของกองทัพเกาหลีใต้ “ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ” ว่ามีการส่งอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ละเมิดน่านฟ้าของเกาหลีเหนือ และบินไปถึงกรุงเปียงยาง เพื่อโปรยใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านตระกูลคิมจริงหรือไม่ แต่ประณาม “ข้อกล่าวหาที่ไร้ยางอาย” ของเกาหลีเหนือ.
เครดิตภาพ : AFP