เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีคดีตากใบ ซึ่งจะหมดอายุความในวันที่ 25 ต.ค. นี้ แต่ยังไม่สามารถนำตัวผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งรวมถึง พล.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีต สส.พรรคเพื่อไทย มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้ว่า สถานะของพรรคเพื่อไทย ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถานะความเป็นจำเลยของ พล.อ.พิศาล จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องติดตามตัวจำเลยที่หลบหนีในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ต้องติดตามกลับมาดำเนินคดีให้ได้ ซึ่งรัฐบาลจะปฏิเสธไม่ได้ ถือเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบในการทวงคืนความยุติธรรมให้คนไทยทั้งประเทศ และประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ส่วนจะนำจำเลยมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้ก่อนคดีหมดอายุความหรือไม่ สิ่งสำคัญที่สุดคือ อย่าเพิ่งดูผลลัพธ์ แต่ให้ดูถึงความตั้งใจและเจตจำนงทางการเมือง ที่ผ่านมามีการแถลงข่าวจากฝ่ายรัฐบาลว่า มีการเซ็นใบลาออก ดูเหมือนเรื่องจะจบ แต่ย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเป็นสมาชิกหรือไม่เป็นสมาชิกของพรรคเพื่อไทย เพราะสถานะความเป็นจำเลยยังคงอยู่ หน้าที่ของรัฐบาลคือการติดตามจำเลยทุกคนที่ยังยังคงหลบหนีกลับมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด

นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า กรณี พล.อ.พิศาล ระบุในใบลาออกว่าจะมาชี้แจงหากอาการป่วยทุเลาลง ซึ่งน่าจะภายหลังคดีหมดอายุความ หากเป็นแบบนั้นจริง สังคมคงตั้งคำถาม และเชื่อได้ว่า เป็นความพยายามในการหลบหนีคดี รัฐบาลก็จะยิ่งสูญเสียความเชื่อมั่นต่อประชาชนมากขึ้น ในฐานะฝ่ายค้านจะตรวจสอบเรื่องนี้ และตีแผ่ความจริงอย่างเข้มข้นต่อไป ผ่านกระบวนการหลายอย่าง ไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าต้องตั้งกระทู้ถามในสภาอย่างเดียว คงใช้กลยังมีอีกหลายเวที ทั้งการอภิปรายตามมาตรา 151 และ 152 การลงมติไม่ไว้วางใจ คณะกรรมาธิการที่ติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด ยืนยันว่าเราจะใช้กลไกทุกช่องทาง ในการติดตามเรื่องนี้ต่อไป อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ตนไม่อยากพูดชี้นำ เพราะตอนนี้ยังคงมีเวลาที่รัฐบาลยังสามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ที่สุด.