สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ว่า “ฟรอนเท็กซ์” หน่วยงานด้านพรมแดนของสหภาพยุโรป เปิดเผยว่า จนถึงเดือน ก.ย. ปีนี้ สถิติการข้ามพรมแดนเข้าสู่สหภาพยุโรปที่ตรวจพบ ลดลงร้อยละ 42 เหลือ 166,000 คน

การลดลงมากที่สุด เกิดขึ้นตามเส้นทางผ่านภูมิภาคทางตะวันตกของคาบสมุทรบอลข่าน ลดลงร้อยละ 79 เหลือ 17,000 คน และเมดิเตอร์เรเนียนตอนกลาง ลดลงร้อยละ 64 เหลือ 47,700 คน

ในทางกลับกัน จำนวนผู้ลักลอบอพยพเข้าเมือง ผ่านเส้นทางแอฟริกาตะวันตก เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า แตะ 30,600 คน ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้

ขณะที่ภูมิภาคตะวันออกของอียู เป็นจุดหมายปลายทางซึ่งมีผู้ขอลี้ภัยมากที่สุด รวมถึงในโปแลนด์ โดยพบผู้เข้าเมืองเกือบ 13,200 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 192 เมื่อเทียบกับสถิติของปี 2566

ทั้งนี้ โปแลนด์และสาธารณรัฐเช็ก ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนกลางของยุโรป เรียกร้องให้อียูเพิ่มความเข้มงวด ให้กับมาตรการควบคุมการอพยพและการลี้ภัยฉบับปรับปรุง ซึ่งกำหนดให้มีผลบังคับใช้ในปี 2569

กฎเกณฑ์ที่เพิ่งได้รับการรับรอง เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา มีเป้าหมายเพื่อแบ่งปันความรับผิดชอบ การรองรับผู้ขอลี้ภัยใน 27 ประเทศสมาชิกอียู และเร่งการเนรเทศบุคคลซึ่งไม่มีสิทธิพำนัก.

เครดิตภาพ : AFP