นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยถึงมาตรการแอ่วเหนือคนละครึ่ง ว่า ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่รัฐบาลเห็นความสำคัญกับการท่องเที่ยว ซึ่งโครงการแอ่วเหนือคนละครึ่ง ที่รัฐช่วยสนับสนุน 400 บาทต่อคนต่อทริป และประชาชนออก 400 บาทต่อคนต่อทริปหากใช้จ่ายมากกว่านั้นก็จะต้องออกเพิ่มเอง จำนวน 10,000 สิทธิ์ โดยจะเริ่มโครงการในวันที่ 1 พ.ย. 2567 นั้น อาจจะช่วยฟื้นการท่องเที่ยวในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย แต่จากจำนวนเงินและขนาดของผู้เข้าร่วมโครงการอาจจะมีพลังน้อยในการกระตุ้นท่องเที่ยว แต่อาจจะเป็นมาตรการระยะสั้นที่รัฐบาลพยายามทำไปก่อนเพราะมีงบประมาณอยู่แล้ว

“เชื่อว่าในระยะถัดไปน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา จะมีมาตรการที่จะมากระตุ้นการท่องเที่ยวในระยะปานกลางและระยะยาวเพื่อให้จำนวนนักท่องเที่ยวไปถึงเป้าหมายปลายปีนี้และต่อยอดไปถึงช่วงต้นปี 2568 ส่วนมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ออกมาในระยะสั้นนี้ส่วนหนึ่งเพราะต้องการดึงให้คนไทยท่องเที่ยวในประเทศ เนื่องจากค่าเงินบาทแข็งค่า ประกอบกับค่าเงินหลายประเทศอ่อนค่า ทั้งจีนและญี่ปุ่นทำให้คนไทยบางคนออกไปเที่ยวต่างประเทศ” นายชำนาญ กล่าว

ทั้งนี้ข้อเสนอของ สทท. ที่อยากให้รัฐบาลสนับสนุนเที่ยวคนละครึ่งจำนวน 2,000 บาท เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวใน 55 จังหวัดเมืองน่าเที่ยว (เมืองรอง) ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวหรือไฮซีซัน เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ในเมืองหลัก ดังนั้นหากมีโครงการนี้มาช่วยก็จะทำให้คนเลือกเดินทางท่องเที่ยวในเมืองรองมากขึ้น และเพิ่มการใช้จ่ายมากขึ้นด้วย ซึ่งเป็นแรงส่งให้รายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศไปถึงเป้าหมาย 9 แสนล้านบาท หลังในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวหรือโลว์ซีซันที่ผ่านมาจากสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการพบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง สินค้าและบริการด้านท่องเที่ยวขายได้น้อยลง