เมื่อวันที่ 14 ต.ค. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า วันนี้ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รีบตรวจสอบว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กระทำการอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 184 (4) ประกอบมาตรา 186 หรือไม่ และจะทำให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามมาตรา 170 (5) หรือไม่ และส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยต่อไปตามความในมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 วรรคสี่ ในกรณีดังนี้ 1. กรณีสื่อมวลชนสอบถามถึงจุดยืนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2567 หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี แต่ น.ส.แพทองธาร กลับตอบกลับผู้สื่อข่าวว่า ไม่ควรถามถามคำถามยุแยง ทั้งนี้ การที่ น.ส.แพทองธาร ให้สัมภาษณ์บางส่วนว่า “… ไม่อยากให้นักข่าวถามแบบนี้”  และ “… และขอให้นักข่าวไม่ถามอะไรที่เป็นการยุแยง” นั้น จึงอาจเข้าข่ายเป็นการกระทำใด ๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม อันเป็นการขัดขวางหรือแทรกแซงการใช้สิทธิหรือเสรีภาพของหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนโดยมิชอบ ทั้งนี้ ตามความในรัฐธรรมนูญมาตรา 184 (4) ซึ่งมีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหลายมาตราที่เกี่ยวข้อง           

นายเรืองไกร กล่าวว่า รัฐธรรมนูญ มาตราต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น “มาตรา 35 บุคคลซึ่งประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนย่อมมีเสรีภาพในการเสนอข่าวสาร หรือการแสดงความคิดเห็นตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพ”, “มาตรา 170 ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว เมื่อ (5) กระทำการอันเป็นการต้องห้ามตามมาตรา 186 หรือมาตรา 187”, “มาตรา 186 ให้นําความในมาตรา 184 มาใช้บังคับแก่รัฐมนตรีด้วยโดยอนุโลม เว้นแต่กรณี ดังต่อไปนี้  (1) การดำรงตำแหน่งหรือการดำเนินการที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นหน้าที่หรืออำนาจของรัฐมนตรี (2) การกระทำตามหน้าที่และอำนาจในการบริหารราชการแผ่นดิน หรือตามนโยบายที่ได้แถลง ต่อรัฐสภา หรือตามที่กฎหมายบัญญัติ

นอกจากกรณีตามวรรคหนึ่ง รัฐมนตรีต้องไม่ใช้สถานะหรือตำแหน่งกระทำการใดไม่ว่าโดยทางตรง หรือทางอ้อม อันเป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมืองโดยมิชอบตามที่กำหนดในมาตรฐานทางจริยธรรม”, “มาตรา 184 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาต้อง (4) ไม่กระทำการใด ๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม อันเป็นการขัดขวางหรือแทรกแซง การใช้สิทธิหรือเสรีภาพของหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนโดยมิชอบ”

จากข้อเท็จจริงในส่วนที่ น.ส.แพทองธาร ให้สัมภาษณ์บางส่วนว่า “… ไม่อยากให้นักข่าวถามแบบนี้”  และ “… และขอให้นักข่าวไม่ถามอะไรที่เป็นการยุแยง” นั้น เมื่อนำไปตรวจกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญในมาตราที่เกี่ยวข้อง กรณีจึงมีเหตุอันควรขอให้ กกต. ตรวจสอบว่าความเป็นรัฐมนตรีของ นส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะสิ้นสุดลงตามมาตรา 170 (5) เพราะกระทำการอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 184 (4) ประกอบมาตรา 186 หรือไม่

นายเรืองไกร กล่าวทิ้งท้ายว่า ยังมีอีกหลายกรณีที่จะตรวจสอบนายกรัฐมนตรีต่อไป เพราะ สส. หรือ สว. ไม่ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ดังนั้น ตนจึงใช้เวลาว่างทำงานอดิเรกอย่างนี้ ส่วนรัฐมนตรีรายอื่น ก็ติดตามดูอยู่ ใครที่ควรจะถูกตรวจสอบ จะส่งคำร้องแล้วแจ้งให้ทราบเป็นคราว ๆ ไป.