ล่าสุดเกิดปมร้อนอีกระลอกใน “ดคีตากใบ” เมื่อ “พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี”  สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อดีตแม่ทัพภาค 4  หนึ่งในผู้ต้องหาคดีดังกล่าวที่จะสิ้นสุดอายุความลงในวันที่ 25 ต.ค.นี้ หายตัวล่องหนเข้ากลีบเมฆ โดยปรากฏในภายหลังว่า “พล.อ.พิศาล” ลาประชุมสภาอ้างไปรักษาตัวต่างประเทศ โดยมี “พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน”รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง จากพรรคเพื่อไทยเซ็นอนุมัติให้

ปลุกสังคมออกมาทวงถามถึงมาตรฐานของพรรคเพื่อไทย  ตั้งแต่การคัดเลือกตัวผู้สมัคร ตลอดจนการดำเนินการเมื่อเรื่องอยู่ในขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม ว่าในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาลมีการควบคุมคนในสังกัดอย่างไร  ซึ่งที่ผ่านมาพรรคฝ่ายค้านอย่าง “ก้าวไกล” ออกมาเปิดแผลรัวๆ จี้ให้เร่งติดตามตัวผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก่อนคดีหมดอายุความ

ขณะที่ “ภูมิธรรม เวชชชัย” รองนายกฯและ รมว.กลาโหม และแกนนำพรรคเพื่อไทยคนอื่นๆ  โบ้ยให้เป็นเรื่องส่วนตัวของ พล.อ.พิศาล ไม่เกี่ยวกับพรรค

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มี  กมลศักดิ์ ลีวาเมาะ”  สส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ เป็นประธาน ประชุมวาระสำคัญเรื่องการติดตามผู้ต้องหาคดีตากใบ เรียกผู้แทนหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง ซึ่งข้อมูลจากตำรวจเปิดเผยว่า 2 ผู้ต้องหาคนสำคัญ เผ่นแนบออกนอกประเทศไปแล้ว

ในส่วนของ “เท้ง”ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและผู้นำฝ่ายค้าน แถลงจี้รัฐบาลให้เร่งเจรจาทางการทูตให้ประเทศญี่ปุ่นและอังกฤษ ปลายทางที่ 2 จำเลยสำคัญในคดีตากใบหลบหนีไป ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกลับมายังประเทศไทย เพราะเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน

ล่าสุด “สรวงศ์ เทียนทอง” รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ออกมาปฏิเสธว่าพรรคเพื่อไทยเปล่าอุ้ม “พล.อ.พิศาล” พรรคอ้อนวอนอยากให้เจ้าตัวกลับมาต่อสู้คดี แต่ไม่สามารถติดต่อได้ วันนี้ต่อให้ขับออกจากพรรคเจ้าตัวก็ยังเป็น สส.อยู่ แต่ยืนยันว่าหาก “พล.อ.พิศาล” เลือกกลับมาหลังคดีขาดอายุความ พรรคจะมีมาตรการแน่นอนและอาจจะต้องขับออก

สุดท้ายถ้าพรรคเพื่อไทยยังคงเดินเกมช้าไม่ตอบสนองต่อข้อกังขาของคนในสังคมย่อมทำให้ศรัทธาจากประชาชนขาดสะบั้น  ที่สำคัญยังส่อแววสุมไฟร้อนความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้อีกระลอกหรือไม่ เป็นประเด็นท้าทายวัดฝีมือ “นายกฯอิ๊งค์”จะสางปมร้อนนี้อย่างไร.