ยังคงเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงอย่าต่อเนื่อง สำหรับชื่อของดาราที่มีส่วนพัวพันกับธุรกิจออนไลน์ของบริษัทที่กำลังมีประเด็นอยู่ ณ ขณะนี้ ซึ่งหนึ่งในนักแสดงอย่าง “พีพี กฤษฏ์“ เคยได้ร่วมงานเป็นพรีเซนเตอร์ผลิตภัณฑ์ให้กับบริษัทเครือดังกล่าวหมดสัญญาไปแล้วปีกว่า รับเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

ล่าสุดเวลา 19.40 วันที่ 11 ต.ค.2567 หนุ่มพีพี ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้แจงเรื่องที่ได้รับจ้าง เป็นพรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์ จากเครือบริษัทดังกล่าว โดยพีพีได้เผยว่า

“เหตุผลที่จัดโต๊ะแถลงข่าวประเด็นเรื่องที่เคยเป็นพรีเซ็นเตอร์ของบริษัทที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในตอนนี้ คือจริงๆมีความรู้สึกว่าไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วก็ได้รับรู้ข้อมูลต่างๆมาจากพี่ๆทีมงาน ก็เลยอยากออกมาชี้แจงว่า เราเป็นพรีเซนเตอร์ให้เขาในรูปแบบใดครับ ซึ่งสินค้าที่เราเป็นพรีเซนเตอร์ในตอนนั้น เป็นผลิตภัณฑ์โปรดักซ์อาหารเสริมบำรุงสายตาของบริษัท ดิไอคอน พฤษภาคม 2565 สัญญา 1 ปี ในเงื่อนไขสัญญาการทำงานทั้งหมด ทำงานด้วยกัน 3 วัน คือ ถ่ายภาพนิ่ง, ออกรายการ และอีเวนต์เปิดตัวผลิตภัณฑ์ ตัวพีเองก็ทำหน้าที่นำเสนอผลิตภัณฑ์อย่างเดียวเลย

เหตุผลที่ตัดสินใจรับงานนี้ในตอนนั้นคือเป็นช่วงที่พีออกจากบริษัทเก่าแล้ว เริ่มทำบริษัทของตัวเอง แล้วก็มีบริษัทนี้ติดต่อมา ซึ่งทีมงานมีการเช็กทั้งหมดแล้วพบว่าผ่านการรับรองจากหน่วยงานรัฐและได้รับ อย. เรียบร้อยครับ และเราก็เช็ยอมรับคไปถึงตัวของบริษัทเองด้วยว่า ได้มีทุนการจดทะเบียนเท่าไรข้อมูลบริษัทถูกต้องตามกฎหมายไหม พอเจอเหตุการณ์นี้ยอมรับว่าตกใจครับ พียอมรับว่าไม่สบายใจเลยจริงๆ พีเลยอยากออกมาพูดถึงเรื่องนี้ในวันนี้ ถามว่าตัว พีทราบถึงเรื่องภายในของบริษัทไหม คือตัวพีเองจะได้รับทราบเฉพาะข้อมูลของสินค้า แต่ไม่ได้รับทราบถึงกลไก กิจกรรมหรือการทำงานของบริษัท ซึ่งถ้าย้อนกลับไปในงานเปิดตัว ทางบริษัทก็มีสคริปต์ให้ แต่ตัวพี ก็ขายเฉพาะสินค้าที่ พีเป็นพรีเซนเตอร์เท่านั้น ส่วนทางทีมงานของ พีเองมีการปรับสคริปต์และคอนเทนต์ให้หมดแล้ว โดยขอไม่พูดถึงตัวบุคคล พูดเฉพาะผลิตภัณฑ์ ทางทีมงานของ พีพี ได้มีการตัดข้อความที่ระบุหรือเป็นการอวดอ้างสรรพคุณด้วย

ส่วนสัญญาการทำงานในฐานะพรีเซนเตอร์ ค่าจ้างได้รับจากค่าจ้างแบบโฆษณาครับ ซึ่งตัวพีเองไม่ได้มีการรู้จักกับผู้บริหารบริษัทเป็นการส่วนตัว พีก็รู้จักเขาในการทำงาน ส่วนที่เจอเขาก็คือ3วันใน1ปีครับ ถามว่เขาาเขามีชวนไปร่วมลงทุนอะไรไหม คือเขาไม่ค่อยพูดอะไรกับพีเลย ไม่มีชวนนะครับ วันนั้นจริง ๆ เราก็ไม่ได้ค่อยคุยอะไร พอทราบข่าวเราห่วงความรู้สึกแฟน ๆ ห่วงความรู้สึกของผู้เสียหายมากกว่า เลยอยากจะมาชี้แจงไม่อยากให้เขาเข้าใจผิด พีเองก็ยินดีให้ความร่วมมือ และให้ข้อมูล รวมถึงชี้แจงเอกสารต่าง ๆ ได้หมดเลยครับ พียินดีมาก ๆ ครับ ในส่วนของตอนเป็นพรีเซนเตอร์ได้รับฟีดแบ็กว่าพวกสินค้ามีปัญหาหรือโดนร้องเรียนไหม ถ้าส่วนตัวพีไม่รู้นะครับ ไม่ได้รับทราบในส่วนนั้นและก็ไม่มีใครทักมาหาส่วนตัวด้วย ถามว่าเหตุการณ์นี้ส่งผลอย่างไรกับกับรับงานของพี ก็มีบ้างครับ แต่การเลือกรับงานคือปกติก็มีมาตรฐานในการรับเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าอยู่แล้ว อย่างแรกคือเป็นสินค้าที่ชอบก่อน และต้องเป็นสินค้าที่ถูกต้องตามกฎหมาย หลังจากเกิดเรื่องนี้ก็ต้องทำให้มีการเพิ่มการคัดกรอกงานต่าง ๆ ให้มากยิ่งขึ้นถามว่าตอนนั้นเราได้มีข้อสงสัยในส่วนตัวบริษัทไหม พีไม่ได้รับรู้อะไรเลย พีพรีเซนต์สินค้า อะไรที่ไม่ได้เกี่ยวกับตัว product เราก็จะไม่พูดถึงสิ่งนั้น แล้วเราก็จะไม่พรีเซนต์สิ่งนั้นเลย อันนี้คือในข้อสัญญาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว แล้วเรื่องของสคริปต์ก็ถามว่าปรับแก้เยอะมั้ยต้องขอถามผู้จัดการ (ผจก: “อย่างในการอวยผู้บริหารก็ให้น้องพูดอยู่บนพื้นฐานของน้อง“)

ในส่วนนี้ก็ได้ปรึกษาหารือกับบิวกิ้นก็ปรึกษาก็มีการคุยกันตลอด เขาก็เป็นห่วง ส่วนเรื่องของการแถลงบิวกิ้นว่าอย่างไรบ้าง คือเขาตามใจพี คือพีรู้สึกไม่สบายใจอยากออกมาชี้แจงเรื่องนี้จริงๆ เพราะว่าพีไม่สบายใจ จริงๆเขาก็กำลังใจ เขาก็บอกสู้สู้ ถามว่ามีฟีดแบ็กอะไรไหม รวมๆก็อาจมี แต่ถ้าตรงๆเลยไม่ คือที่พีอ่านแล้วรู้สึกคือที่พีรู้สึกไม่สบายใจจริงๆในฝั่งคอมเม้นต์ในการที่บอก ว่าดาราศิลปินตั้งใจมาทำให้คนเชื่อถือหรือว่าตาม แต่จริงๆทุกๆงานที่พีทำ พีตั้งใจจริงๆทำด้วยความตั้งใจของพีจริงๆ ไม่อยากให้มองศิลปินดาราแบบนั้น การที่มีผู้เสียหายข้างค่อนข้างเยอะ ในมุมของพี พีรู้สึกเสียใจ ไม่มีใครอยากจะให้คนในรอบตัวหรือใครก็ตามเจอ ก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์นี้จริงๆ ถามว่าคิดยังไงกับครั้งแรกที่บอสพอลติดต่อเรามาแล้ววันนี้มันคนละเรื่องกันเลย พีเองก็เสียใจครับ อย่างที่บอกว่าคงไม่อยากให้เกิดเกิดขึ้นกับใครก็ตาม แล้วพีรู้สึกว่า ก็นี่แหละ คงเป็นสิ่งที่พีต้องระมัดระวังมากขึ้นในการรับงานครั้งหน้า และจริงๆไม่เคยคิดอยากจะให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น คือไม่ได้คาดการณ์ว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น จริงๆแล้วพีไม่สามารถเข้าไปดูกิจกรรมหรือกลยุทธ์ยุทธการขาบของเขาได้เลย จริงๆอย่างที่บอกว่ามีหน้าที่พรีเซนต์แค่ตัว product จริงๆตามสัญญา ถามว่าเราไม่ได้โดนกดดันอะไรจากบริษัทใช่ไหม ก็ไม่เลยไม่มีใครกดดัน แต่พีอ่ะกดดันตัวเอง อยากจะช่วย ถ้าช่วยสังคมได้ในส่วนเล็กๆก็อยากจะช่วย

ในส่วนที่คนมองว่าเราใช้ความดังมีชื่อเสียงเป็นดารามาหลอกคนอื่น พีก็ไม่อยากให้คนมองภาพดาราศิลปินแบบนั้นว่าเพื่อมาหลอกเพื่อมาดึงดูดให้ไปซื้อสินค้า สำหรับพีตั้งใจทำทุกๆงาน และพีทำงานด้วยความรักจริงๆกับงานที่พีทำ พอมีคนได้รับผลกระทบจากสิ่งนี้พีก็รู้สึกเสียใจ ไม่รู้จะพูดยังไงเลยมันเป็นเหตุการณ์ที่พีไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น ไม่ได้อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับแฟนๆพีอยู่แล้ว หลังจากหมดสัญญาได้มีคอนเน็คชั่นอะไรต่อไหม ไม่มี ไม่ได้ต่อสัญญาด้วย แล้วก็ไม่ได้ติดต่ออะไรเลย คือหลังมาแถลงแล้ว เราก็สบายใจ คือมันเหมือนเป็นเรื่องที่เราไม่ได้อธิบายมากกว่า คือประเด็นหลักเลยก็อยากจะช่วยเหลือการให้ข้อมูลต่างๆ อยากจะเป็นส่วนเล็กๆในการช่วยเหลือ ให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ ถ้าเจ้าหน้าที่ต้องการข้อมูลอะไรพียินดีให้ความร่วมมือทั้งหมด และก็อยากจะบอกบิวกิ้นว่า ไม่ต้องห่วงตรงนี้ ตั้งใจเรียนไป”