เมื่อวันที่ 11 ต.ค. เวลา 18.45 น. ณ ทำเนียบรัฐบาล น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับปัญหาของ  บริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป ว่า ได้เชิญสำนักง่นตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สคบ. และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มาหารือปัญหาที่เกิดขึ้น ตอนนี้สตช.ได้สั่งการให้ตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนล่าสุดมีผู้ร้องเรียน 250 คน มูลค่าความเสียหาย 95 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการเก็บข้อมูลหลักฐานต่างๆ เพื่อจะดูว่าจะนำไปสู่การแจ้งข้อหาความผิดฐานอะไรบ้าง เช่น มีการหลอกลงทุนหรือไม่ เป็นลักษณะเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ เป็นการขายตรงและผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์หรือไม่ โดยจะมีการเร่งสอบสวนให้เร็วที่สุดอย่างช้าไม่เกิน 1สัปดาห์น่าจะทราบผลได้

“เรามีความกังวลว่าจะมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินหรือไม่ทางตำรวจปคบ.มีหนังสือไปถึงปปง.ให้พิจารณาอายัดทรัพย์ไปก่อน ซึ่งปปง.ได้เฝ้าระวังทรัพย์สินอยู่ถ้าหากมีการยักย้ายถ่ายเทแบบผิดปกติจะเข้าข่ายเป็นการฟอกเงินด้วยซ้ำก็ให้พี่น้องประชาชนสบายใจได้ว่าปปง.เตรียมการดูในเรื่องนี้อยู่“

สำหรับคดีจะเข้าดีเอสไอหรือไม่ต้องมีผู้เสียหาย 300 คนความเสียหาย 100 ล้านบาทซึ่งตอนนี้ก็ใกล้เคียงแล้วทางสตช.ก็ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมาก ในการรับเรื่องร้องเรียนจะได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปร่วมสอบสวนด้วยและสคบ.จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปร่วมด้วยเช่นเดียวกันตลอดจน อย.และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ที่ถือกฎหมายอยู่ก็จะร่วมเข้าไปให้ข้อมูลในการสอบสวนด้วยเช่นกัน

ส่วนประเด็นดาราและอินโฟอินฟูเอ็นเซอร์จะต้องเรียกเข้ามาสอบถามต่อไปทางสคบ.ดูกฎหมายเรื่องการโฆษณาอยู่ฉะนั้นวันที่ 16 ต.ค. นี้ จะได้เรียกทางบริษัทดิไอคอน บอสพอล และอินฟูเอ็นเซอร์มาให้ปากคำ ตลอดจนสอบสวนสำหรับเส้นทางทางการเงินจะเกี่ยวข้องกับดาราหรือไม่ก็ต้องขยายผลออกไปให้ครอบคลุมว่ามีเครือข่ายตามที่ผู้เสียหายให้ข้อมูลมาถ้าใครที่เข้าข่ายจะต้องเข้ามาให้ปากคำให้ข้อเท็จจริง

“อยากเรียนประเด็นที่สคบ.เคยมอบโล่รางวัลตอนนั้นบริษัทมาบริจาคหน้ากากและแอลกอฮอล์ให้กับคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรในต่างจังหวัด และสคบ. เป็นวิทยากรร่วมจึงมีการเสนอเรื่องเข้ามาให้ได้รับโล่รางวัลในการทำสาธารณะประโยชน์ไม่เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจ ซึ่งได้สั่งการให้สคบ.ไปตรวจสอบ หากมีการใช้โล่รางวัลผิดวัตถุประสงค์ในการโฆษณาประกอบธุรกิจทำให้ประชาชนเข้าใจผิดจะมีการเรียกคืนโล่ห์รางวัลกลับมาและประเด็นที่มีเสียงออกไปว่ามีเทวดาที่สคบ.ขอให้ไปประชาชนสบายใจว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการคนนอกสอบสวนเพื่อให้เกิดความโปร่งใส่มากที่สุด” น.ส.จิราพร กล่าว