สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ว่าเซอร์เคียร์ สตาร์เมอร์ ผู้นำสหราชอาณาจักร เรียกการลงทุนครั้งนี้ว่า “การแสดงความเชื่อมั่นครั้งยิ่งใหญ่” ของรัฐบาลพรรคแรงงาน และแผนการเติบโตระยะยาว แม้การเริ่มต้นของรัฐบาลชุดใหม่จะชะงักงัน นับตั้งแต่ได้รับชัยชนะ จากการเลือกตั้ง เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมาก็ตาม

พรรคแรงงานซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านมานานถึง 14 ปี ให้คำมั่นฟื้นฟูเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร โดยอ้างว่า เศรษฐกิจของประเทศตกต่ำอย่างหนัก ตลอดช่วงการบริหารของรัฐบาลพรรคอนุรักษนิยมหลายชุด ที่ต่อเนื่องกันตั้งแต่ปี 2553

แผนการหลักของรัฐบาลพรรคแรงงาน ได้แก่ “พลังงานสีเขียว” เพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานลม, คลื่น และแสงอาทิตย์ เพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์

อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายกล่าวหาเซอร์สตาร์เมอร์ และนางราเชล รีฟส์ รมว.การคลัง ว่าทำให้บรรดานักลงทุนหวาดกลัว ด้วยการอ้างถึงเศรษฐกิจอันเลวร้ายในอดีต และมาตรการแก้ไขที่ยากจะรับมือในอนาคต

บริษัทอิเบร์โดลาของสเปน ซึ่งเป็นเจ้าของสกอตติช พาวเวอร์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการพลังงานของสหราชอาณาจักร เปิดเผยว่า จะเพิ่มการลงทุนด้านพลังงานสะอาดอีกสองเท่า ภายในช่วงเวลา 4 ปีข้างหน้า เป็น 24,000 ล้านปอนด์ (ราว 1 ล้านล้านบาท)

ขณะเดียวกัน บริษัทเออร์สเตดของเดนมาร์ก กำลังลงทุน 8,000 ล้านปอนด์ (348,569 ล้านบาท) และบริษัทกรีนโวลต์ของโปรตุเกส กำลังลงทุน 2,500 ล้านปอนด์ (ราว 108,925 ล้านบาท)

ทั้งนี้ รัฐบาลพรรคแรงงานของเซอร์สตาร์เมอร์ ประกาศกลยุทธ์ด้านพลังงานสีเขียว เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึง การจัดตั้ง “เกรต บริติช เอ็นเนอร์จี” ซึ่งจะเป็นหน่วยงานของรัฐ ที่รับผิดชอบการกระตุ้นการลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียนในประเทศ โดยจะได้รับเงินทุน 8,3000 ล้านปอนด์ (ราว 361,681 ล้านบาท) ภายในช่วง 5 ปีข้างหน้านี้.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES