จากกรณี โครงการก่อสร้างเพื่อป้องกันน้ำท่วมที่จังหวัดกาฬสินธุ์ งบประมาณ 545 ล้านบาท 8 โครงการใหญ่ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ที่กลายเป็นปัญหา 7 ชั่วโคตร เกิดผลกระทบกับประชาชนโดยเฉพาะ ในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เนื่องจากก่อสร้างไม่เสร็จ แม้แต่โครงการเดียว ตั้งแต่ปี 2562 ถึงปัจจุบัน ทุกหน่วยงานกำลังดำเนินการตรวจสอบจากกรมโยธาฯ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ รับพิจารณาเป็นคดีพิเศษ ขณะที่มีข่าวว่าปรากฏในเอกสารชี้แจง กมธ.ติดตามงบประมาณว่า 2 หจก.ขาใหญ่กลับได้เข้าทำงาน 8 โครงการ 7 ชั่วโคตร อีกครั้งตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

รูปภาพนี้มี Alt แอตทริบิวต์เป็นค่าว่าง ชื่อไฟล์คือ IMG_6170-1280x854.jpg

เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ที่อาคารรัฐสภา ห้องประชุมกรรมาธิการ CB 406 ชั้น 4 รัฐสภา (เกียกกาย) นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 พร้อมด้วย นายประเสริฐ บุญเรือง สส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย เขต 6 ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกิจการสภา นายวิรัช พิมพะนิตย์ สส.กาฬสินธุ์ เขต 1 พรรคเพื่อไทย นายทินพล ศรีธเรศ สส.กาฬสินธุ์ เขต 5 พรรคเพื่อไทย และนายนิคม บุญวิเศษ สส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ได้ร่วมประชุมเพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจังหวัดกาฬสินธุ์ มีผู้บริหารท้องถิ่นจังหวัดกาฬสินธุ์ ทั้งเทศบาลตำบล และ อบต. กว่า 50 แห่ง นำโดย นางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล นายก อบจ.กาฬสินธุ์ เข้ารายงานปัญหา มีผู้แทนจากหลายหน่วยงาน ประกอบด้วย กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กรมป่าไม้ กรมธนารักษ์ คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรร สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมชลประทาน กรมโยธาธิการแลผังเมือง และผู้แทนจังหวัดกาฬสินธุ์ นายรุจติศักดิ์ รังษี รองผู้ว่าราชกรจังหวัดกาฬสินธุ์

การประชุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2567 นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ได้ลงพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้พบผู้บริหาร รับฟังปัญหาความเดือดร้อน จึงได้สรุปปัญหาเป็น 6 ประเด็น ประกอบด้วย ปัญหาการจัดเงินอุดหนุนเฉพาะกิจให้แก่องค์การบริหารส่วนตำบลในจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่มีลักษณะการจัดสรรไม่เท่าเทียนกัน ทำให้เกิดปัญหาในการบริหารงบประมาณ, ปัญหาการขอเข้าทำประโยชน์ในเขตป่าไม้หลายพื้นที่ของจังหวัดกาฬสินธุ์, การบริหารจัดการที่ดินและที่ดินสาธารณประโยชน์เพื่อใช้ในการทำกินและที่อยู่อาศัย ซึ่งหลายแห่งยังไม่มีการจำแนกแต่ละพื้นที่ให้ชัดเจน การจัดสรรการใช้ประโยชน์พื้นที่ ส.ป.ก. ให้แก่เกษตรกร รวมทั้งปัญหาการกำหนดขอบเขตที่ดิน ส.ป.ก. ที่ยังไม่มีควาชัดเจน ทำให้ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน, การบริหารจัดการการพัฒนาทรัพยากรน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำชี, การบริหารจัดการน้ำของเขื่อนลำปาว, ปัญหาการรับเหมาสร้างระบบท่อระบายน้ำแก้ปัญหาน้ำท่วมจังหวัดกาฬสินธุ์ หรือโครงการ 7 ชั่วโคตร

การประชุมผู้บริหารท้องถิ่น ได้นำเสนอปัญหาที่เป็นประโยชน์ในทุกประเด็น ผู้แทนหน่วยงานได้รับเอกสารความต้องการเพื่อให้หน่วยงานนำไปช่วยแก้ไข โดยเฉพาะประเด็นการแก้ไขปัญหาโครงการป้องกันน้ำท่วมจังหวัดกาฬสินธุ์ งบประมาณกว่า 545 ล้านบาท 8 โครงการของกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย หรือโครงการ 7 ชั่วโคตร นั้นมีการอภิปรายถึง เมื่อวันที่ (10 ต.ค.) ที่ปรึกษา กมธ.ติดตามงบประมาณฯ ได้ซักถาม กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เนื่องจากการตอบเอกสารของ กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย เป็นหนังสือด่วนที่สุด ที่ มท 0717/19441 ลงวันที่ 3 ตุลาคม 2567 อ้างถึงหนังสือคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ในเอกสารแนบท้าย พบว่า 2 หจก.ขาใหญ่ ชนะการประมูลงานอีกทั้ง 8 โครงการ ที่ทำให้ไม่เข้าใจว่าเหตุใดถึงได้รับงานอีกครั้งทั้งที่ กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้ยกเลิกสัญญาให้เป็นผู้รับเหมาทิ้งงานและขึ้นแบล็กลิสต์ห้ามเข้าประมูลงานกับกรมโยธาธิการและผังเมือง

นางสาวสุภัทรา ชัยเทวารัณย์ ผู้ตรวจราชการกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาให้กับชาวกาฬสินธุ์ เกี่ยวกับโครงการทั้ง 8 โครงการ ทุกโครงการยืนยันว่าได้ยกเลิกสัญญากับ หจก.ประชาพัฒน์ และ หจก.เฮงนำกิจ ทุกโครงการ ซึ่งทุกโครงการอยู่ในขั้นตอนการเตรียมการจัดซื้อจัดจ้าง การที่ กมธ.ติดตามงบประมาณฯ สงสัยนั้น เป็นปัญหาในเรื่องของการจัดทำเอกสารที่ผิดพลาดคาดเคลื่อนทางเทคนิค จึงทำให้ กมธ. เข้าใจว่าเป็นการชนะการประมูลใหม่ และชี้แจงว่า ในขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างทั้ง 8 โครงการ จะมีเพียงโครงการเดียวคือ โครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลัก เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมเมืองกาฬสินธุ์ เท่านั้น ที่อยู่ในระหว่างการประกาศที่จะมีการประมูลในวันที่ 16 ตุลาคมนี้เท่านั้น ส่วนอีก 7 โครงการ ยังไม่ได้ดำเนินการด้านพัสดุแต่อย่างใด

รูปภาพนี้มี Alt แอตทริบิวต์เป็นค่าว่าง ชื่อไฟล์คือ IMG_6172-1280x854.jpg

“…ส่วนการดำเนินการกับ 2 หจก.ที่ยกเลิกสัญญา เป็นผู้ทิ้งงาน กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ได้ประกาศให้ หจก.ประชาพัฒน์ และ หจก.เฮงนำกิจ เป็นผู้รับจ้างที่ถูกตัดสิทธิในการเสนอราคา ไปเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ที่จะไม่สามารถเข้ามาเป็นคู่ค้า หรือทำสัญญาใดๆที่เกี่ยวข้องกับทางกรมโยธาธิการและผังเมืองได้ ขอให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นใจว่า กรมโยธาธิการและผังเมือง ยึดในเรื่องผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก ในด้านการตรวจสอบที่เกี่ยวพันกับงบประมาณ ที่นอกจากการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบพัสดุ การจ่ายเงินแอดวานซ์ 15% และการให้เบิกล่วงหน้า เกิดขึ้นตามกระบวนการตรวจรับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายช่าง กรมโยธาธิการและผังเมืองยืนยันว่ากำลังพิจารณาเรียกเงินค่าปรับตามส่วนที่เกิดขึ้นจากผลการทำงานและกำลังดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อรักษาผลประโยชน์ของแผ่นดิน…” นางสาวสุภัทรา กล่าวในที่สุด

ด้านนายวิรัช พิมพะนิตย์ สส.กาฬสินธุ์ เขต 1 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังฟังคำชี้แจงเข้าใจได้ว่าเป็นเรื่องความผิดพลาดทางเอกสาร แต่ขอให้ กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้เร่งแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องชาวกาฬสินธุ์ เนื่องจากพื้นที่การก่อสร้างได้สร้างปัญหาที่กระทบเป็นภาพรวมกับพี่น้องประชาชนคนกาฬสินธุ์ การที่ กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ได้จัดสรรงบประมาณให้ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ต้องเร่งจัดหาผู้รับจ้างที่มีความสามารถในการทำงาน โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ปัญหาทิ้งงานปัจจุบันเมื่อเกิดฝนตกก็ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขัง เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่บริเวณจุดก่อสร้างอีกทั้งปัญหาน้ำขังก็ทำให้เกิดยุงลายระบาด แต่ตนก็เชื่อมั่นว่ากรมโยธาธิการและผังเมือง มีความตั้งใจที่จะช่วยเหลือชาวกาฬสินธุ์ จึงขอเป็นกำลังใจให้ทำงานให้คนกาฬสินธุ์ ได้เสร็จลุล่วงโดยเร็ววัน

ด้านนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 กล่าวว่า ผลการรับฟังปัญหาถือได้ว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับไปพิจารณา ซึ่งก็จะมีการติดตามให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชน ส่วนกรณีปัญหา 7 ชั่วโคตร ที่มีการทักท้วงไป กมธ.ติดตามงบประมาณนั้น ได้รับการชี้แจงแล้วเข้าใจได้ว่าเป็นปัญหาในเรื่องการนำเสนอข้อมูลที่เป็นเอกสาร ซึ่งผู้ตรวจราชการกรมฯ สามารถชี้แจงได้ดีมาก แต่ก็ขอให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนชาวกาฬสินธุ์โดยเร็วด้วย