เมื่อเวลา 14.30 น. ที่โรงแรมสวิสโฮเต็ล กรุงเทพฯ รัชดา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มิน-พีชญา วัฒนามนตรี อายุ 35 ปี นักแสดงและนางเอกชื่อดัง ได้นัดหมายสื่อมวลชนเพื่อแถลงข่าวชี้แจงปมดราม่าเรื่องธุรกิจดังที่กำลังมีประเด็นดราม่าเรื่องลักษณะของธุรกิจที่ทำให้มีผู้เสียหายและสูญเงินจำนวนมาก โดยมีผู้ร่วมแถลงข่าวได้แก่ มิน-พีชญา วัฒนามนตรี, เอส-อนุสิทธิ์ ถึงสุข (ผจก.ส่วนตัว), ทนายชูชาติ กันภัย และทนายนงลักษณ์ แตงเจริญ ร่วมตอบคำถามสื่อมวลชน

มิน เผยว่า “ก่อนอื่นขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียหาย ตัวมินเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังจากที่เกิดเรื่องอยากออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจตั้งหลายวันแล้ว แต่ทุกอย่างก็พร้อมในวันนี้ อยากใช้พื้นที่ตรงนี้พูดในส่วนของมิน อยากจะอธิบายว่ามินอยู่ที่บริษัทดิไอคอน กรุ๊ป มินเป็นทั้งพรีเซ็นเตอร์และผู้รับจ้างในฐานะผู้บริหารฝ่ายสื่อสารองค์กร ถ้าเรียกภาษาบ้านๆ ให้เข้าใจง่ายคือพีอาร์ค่ะ ซึ่งวันนี้นี่คือบริบทที่มินได้รับจ้างมีตัวสัญญาชัดเจน คนที่บริษัทเขาจะเรียกมินว่าบอส เป็นคำที่เขาเรียกกันเอง เพื่อให้เกียรติมินค่ะ ในส่วนของมินเป็นส่วนที่บริหารจัดการในส่วนของพีอาร์ได้ค่าตัวเท่ากับพรีเซ็นเตอร์เลยค่ะ มีสัญญาชัดเจน เราพร้อมเอาไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ เราไม่ได้เข้าบริษัททุกวันค่ะ หน้าที่ของมินพรีเซ็นต์โปรดักต์ คือพรีเซ็นเตอร์ จากนั้นก็เข้าไปในงานเพื่อพรีเซ็นต์โปรดักต์ตามงานต่างๆ ตามที่บริษัทแจ้งมา นั่นคือสโคปงานของมิน เราเพิ่งร่วมงานกันได้ปีกว่าๆ เปิดมา 6 ปี เราเพิ่งเข้ามาเมื่อต้นปีที่ผ่านมาเอง สัญญาเลยมาเป็นปีกว่าๆ ค่ะ ณ วันที่จะก้าวเข้ามาร่วมงานกับบริษัท เราก็ตรวจสอบว่าบริษัทมีการจดจัดตั้งถูกต้องไหม ผลิตภัณฑ์เป็นแบบไหน เราเอามาใช้จริง บริษัทมีรางวัลจาก สคบ. เป็นหน่วยงานรัฐ และไม่เพียงเท่านั้น มินไม่ใช่พรีเซ็นเตอร์คนแรกที่เข้ามาร่วมงานกัน ก่อนหน้านี้มีพรีเซ็นเตอร์มากมายเกือบ 10 ท่าน พอเห็นข้อมูลดังกล่าว ก็ตรวจสอบตามที่บุคคลคนหนึ่งจะตรวจสอบได้ แล้วก็ยังโทษตัวเองว่าเราตรวจสอบไม่ดีพอ ทำให้เกิดความเสียหายกับประชาชนที่เรารัก (เสียงสั่น) มินพูดได้เลยว่ามินมีทุกวันนี้เพราะประชาชน วันนี้มินไม่ได้นิ่งนอนใจนะคะ”

ตั้งแต่มินเข้ามาในบริษัท ยอมรับว่าไม่เคยมีจุดไหนที่น่าสงสัยเลย เพราะภาพลักษณ์ดีเหมือนที่ทุกคนเห็นเลย มินเพิ่งรู้ข่าวเรื่องเสียหายของบริษัทพร้อมทุกคนเลย พอรู้ยอมรับว่าตกใจและเสียใจ เพราะมีผู้เสียหายเกิดขึ้นและมินสงสารเขามาก มินอยากจะยืนเคียงข้างประชาชน อยากเจอเขา อยากรู้ว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง เรื่องแผนการจ่ายและทำทีม แผนการขายไม่ใช่ขอบเขตหน้าที่มินเลย ต่อให้มินพยายามตรวจสอบอย่างมากแล้ว แต่มันก็ยังไม่มากพอ และไม่ครอบคลุม อันนี้มินก็ยังโทษตัวเองอยู่ อันนี้มินพลาดจริงๆ และขอโทษ เรื่องการตรวจสอบมินไม่ได้เอะใจเลย บริษัทไม่เคยมีอะไรเลยที่ข่าวไม่ดี แม้กระทั่งภาษีนะ มินก็ตรวจสอบว่าถูกต้องไหม มินอยู่วงการบันเทิงมาเกือบ 20 ปี มินไม่รับอะไรที่สุ่มเสี่ยง สีเทา หรือมีความสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้ประชาชนเดือดร้อนเลยแม้แต่นิดเดียว และบ้านมินก็ทำธุรกิจเกี่ยวกับห้างร้าน วัสดุก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ มานานแล้ว ซึ่งที่คนพูดว่ามินได้เงินจากดิไอคอน เป็นร้อยล้านอย่างที่พูด ไม่จริงเลย มินมีทางเลือกนะคะ มินไม่ต้องทำธุรกิจสีเทา เพื่อให้ตนเองมีเงินไปเพื่ออะไร มินมีธุรกิจรองรับอยู่แล้ว มีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อยู่แล้ว ที่เข้ามาอยู่บริษัทนี้ เดิมทีผู้จัดการของมินคือพี่เอส ได้รับการติดต่อให้มาเป็นพรีเซ็นเตอร์เซรั่มตัวหนึ่ง ด่านแรกมินไม่ได้เจอตัว ด่านที่สองถึงเจอตัวมิน ซึ่งมินกับคุณพอลไม่เคยเจอกันมาก่อน เขาบอกว่าพี่อยากให้มินเป็นมากกว่าพรีเซ็นเตอร์ พี่เชื่อว่ามินทำได้ดี พี่อยากให้มินเป็นพีอาร์ สรุปง่ายๆ เป็นพีอาร์ของบริษัท มินไม่เข้าใจนะ มินเอากลับไปคิดทบทวนหลายเดือน ถ้าจำไม่ผิด 2-3 เดือน ระหว่างนั้นพี่พอลโทรฯ หามินเรื่อยๆ ว่าการเป็นพีอาร์คืออะไร มินเลยไม่รีบ ก็เลยปล่อยไปก่อน ต่อมาผู้จัดการมินโทรฯ มาถาม ซึ่งเราก็บอกว่าไม่แน่ใจเลยพี่ สุดท้ายเราเลยตัดสินใจลองดูสักปี เราเป็นพนักงานคนหนึ่งของบริษัท ย้ำอีกครั้งมินไมใช่หุ้นส่วน ได้เงินเดือนในส่วนเท่ากับพรีเซ็นเตอร์เท่านั้นเลย”