เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 10 ต.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากสอบปากคำเป็นเวลานานกว่า 6 ชม. น.ส.ณปภัช เขจรรักษ์ อายุ 39 ปี หรือ เจ๊นุช บางเตย คนสนิทนางสาวกรกนก สุวรรณบุตร หรือ แม่ตั๊ก และนายกานต์พล เรืองอร่าม หรือ ป๋าเบียร์ ได้ลงมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ก่อนอื่นตนต้องขอโทษที่ไม่เคยออกมาพูดหรือให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

แต่ขอยืนยันว่าไม่เคยหลบหนีไปไหนตามที่ปรากฏในสื่อ ที่นักข่าวไปตามหาคือบ้านหลังเก่าซึ่งตนไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องตนก็ถูกสังคมตราหน้าเหมือนเป็นฆาตกร ทั้งที่ความจริงแล้วตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้  และเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง ตนจึงมาให้ปากคำในฐานะพยาน พร้อมทั้งได้มอบพยานหลักฐานทุกอย่างให้กับพนักงานสอบสวนไปหมดแล้ว ส่วนเรื่องทองยอมรับว่าเคยซื้อทองจากแม่ตั๊กไปจริง ซึ่งเป็นทองรูปพรรณหนัก 10 บาท ส่วนปี่เซียะก็เคยซื้อจริง แล้วนำไปขายก็ไม่ได้ราคาตามที่ซื้อโดยราคาลดฮวบไปถึง 50%

น.ส.ณปภัช กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนเหตุการณ์ในครั้งนี้ ได้ส่งผลกระทบกับชีวิตของตนทำให้ตนเกือบที่จะฆ่าตัวตาย ส่วนสามีก็ต้องป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และปัสสาวะเป็นเลือด จึงอยากจะวอนขอโอกาสสังคม และยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนก็ได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหาแก่เจ๊นุชในความผิดฐาน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และพ.ร.บ.โฆษณาสรรพคุณอาหารเสริมอันเป็นเท็จ แต่น.ส.ณปภัช ได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ให้ประกันตัวชั่วคราวโดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์ เพราะผู้ต้องหามาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก และผู้ต้องหามีที่อยู่เป็นหลักแหล่งสามารถติดต่อได้ รวมทั้งข้อกล่าวหาที่แจ้งไม่ได้มีอัตราโทษสูง โดยคดีนี้เป็นคดีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษไว้ ซึ่งไม่ใช่คดีที่เกี่ยวข้องกับแม่ตั๊ก