เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 10 ต.ค. ที่นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว น.ส.แพทองธาร นายกรัฐมนตรี ร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ระหว่างผู้นำอาเซียนกับเกาหลีใต้ ครั้งที่ 25 โดยในการประชุมครั้งนี้ นายยุน ซ็อก ย็อล ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี ร่วมการประชุม โดยนายกฯ กล่าวถ้อยแถลงในนามอาเซียน (ASEAN Common Statement) เนื่องจากประเทศไทย เป็นประเทศผู้ประสานงาน ว่า ปีนี้ถือเป็นปีสําคัญในการเฉลิมฉลองครบรอบ 35 ปีของความสัมพันธ์อาเซียน-เกาหลีใต้ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา อาเซียนกับเกาหลีใต้มีความร่วมมือที่ลึกซึ้งและขยายขอบเขตไปได้ทั้ง 3 เสาหลักของประชาคมอาเซียน และวันนี้ถือเป็นการเริ่มต้นบทบาทใหม่ของความสัมพันธ์ด้วยการจัดตั้งหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้าน (Comprehensive Strategic Partnership : CSP) ซึ่งหวังว่าจะได้ดําเนินการ CPS บนพื้นฐานของความไว้วางใจ เคารพซึ่งกันและกัน และเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน และการพัฒนาแผนปฏิบัติการอาเซียน-เกาหลีใต้ฉบับใหม่ (พ.ศ. 2569-2573) จะเป็นแนวทางความร่วมมือในอนาคต 

นายกฯ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ อาเซียนชื่นชมการสนับสนุนของเกาหลีใต้ต่อความเป็นศูนย์กลางของอาเซียน และมุมมองของอาเซียนเกี่ยวกับอินโดแปซิฟิก ผ่านกลไกที่นําโดยอาเซียน รวมถึงชื่นชมการมีส่วนร่วมของเกาหลีใต้ในความร่วมมือภายใต้ AOIP ซึ่งสอดคล้องกับความร่วมมือเพื่อความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน (Korea ASEAN Solidarity Initiative : KASI) ด้านการเมือง อาเซียนสนับสนุนความร่วมมือเพิ่มเติม ในการจัดการกับปัญหาความมั่นคงที่ไม่ใช่แบบดั้งเดิม รวมถึงความมั่นคงทางไซเบอร์ อาชญากรรมข้ามชาติ และความมั่นคงทางทะเล ทางด้านเศรษฐกิจ อาเซียนสนับสนุน RCEP และหวังว่าจะเริ่มการเจรจายกระดับ FTA อาเซียน-เกาหลี ในปี พ.ศ. 2569 พร้อมกันนี้ อาเซียนสนับสนุน MSMEs สตาร์ทอัพ ให้กับเยาวชน คนรุ่นใหม่ และสุภาพสตรี รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล และอุตสาหกรรมในอนาคต รวมถึงสิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงมลพิษจากหมอกควันข้ามพรมแดน 

นายกฯ กล่าวต่อว่า ส่วนทางด้านสังคมและวัฒนธรรม ควรส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนและวัฒนธรรม หวังว่าเกาหลีใต้จะสนับสนุนการฝึกอบรมด้านเทคนิคและการอาชีวศึกษาเพื่อการพัฒนาอาชีพ เพื่อแรงงานอนาคต รวมทั้ง สนับสนุนให้เกาหลีใต้ร่วมมือกับศูนย์อาเซียนด้านสาธารณสุข ทั้งนี้ ส่งเสริมการเจรจาอย่างสันติระหว่างทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในส่วนของคาบสมุทรเกาหลี อาเซียนเรียกร้องให้เกาหลีเหนือปฏิบัติตามมติ UNSC พร้อมกันนี้ อาเซียนสนับสนุนความพยายามของเกาหลีใต้ ในการเจรจาอย่างสันติและต่อเนื่องเพื่อสันติภาพและเสถียรภาพที่ยั่งยืน เพื่อคาบสมุทรเกาหลีที่ปราศจากนิวเคลียร์ สงบสุข และเจริญรุ่งเรือง ในขณะที่ยอมรับการให้ความสำคัญกับ “August 15 Unification Doctrine” (วิสัยทัศน์ใหม่ด้านการรวมชาติ 15 สิงหาคม)

จากนั้น นายกฯ ได้กล่าวแถลงการณ์ของประเทศไทย โดยได้หยิบยกวิสัยทัศน์ ‘ABC’ ในการพัฒนาหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้าน (CSP) กับเกาหลีใต้ นั่นก็คือ ด้าน ‘A’ Advanced Technology การใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เกาหลีใต้ในฐานะผู้นํานวัตกรรมหลายประเภท สามารถมีส่วนสําคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลในอาเซียน ซึ่งจะเป็นการขับเคลื่อนนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ที่จะเพิ่มความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาค และบูรณาการเศรษฐกิจให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ผ่านการยกระดับ ASEAN-ROK FTA และ ‘B’  Balanced development คือการพัฒนาที่สมดุล สร้างอนาคตที่เท่าเทียมยั่งยืน และยืดหยุ่นมากขึ้น โดยประเทศไทยขอให้เกาหลีใต้สนับสนุนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง MSMEs  

นายกฯ ยังกล่าวชื่นชมการมีส่วนร่วมของเกาหลีใต้ใน “Seminar on Thailand and Creative ASEAN” ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ เมื่อเดือนที่แล้ว และประเทศไทยและเกาหลีใต้ สามารถร่วมมือกันในประเด็นด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ซึ่งจะเป็นจุดสนใจหลักของงานวันอาเซียน-เกาหลีใต้ ในเดือน พ.ย. 2567 นี้.