สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ว่า เงินกู้ของอียู ซึ่งได้รับการลงนามโดยเอกอัครราชทูตส่วนใหญ่ ในการประชุมที่กรุงบรัสเซลส์ เป็นส่วนหนึ่งของแผนริเริ่มมูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.67 ล้านล้านบาท) ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 แห่ง หรือ จี7 เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ อียูเป็นฝ่ายแรกในกลุ่มจี7 ที่ประกาศจำนวนเงินจัดสรรในแผนการดังกล่าว และยังคงรอให้สมาชิกรายอื่น รวมถึงสหรัฐ และสหราชอาณาจักร ดำเนินการตามส่วนของตนเอง 

ด้านเจ้าหน้าที่ของอียูกล่าวว่า เงินกู้ของกลุ่มมีมูลค่าสูงถึง 35,000 ล้านยูโร แต่ตัวเลขข้างต้นอาจลดลงได้ หากประเทศสมาชิกกลุ่มจี7 ประเทศอื่น ตัดสินใจสมทบเงินมากขึ้น

อนึ่ง อียูดำเนินการอายัดเงินจากธนาคารกลางของรัสเซีย ประมาณ 235,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7.86 ล้านล้านบาท) นับตั้งแต่ทำเนียบเครมลิมเริ่มปฏิบัติการทางทหารในยูเครน เมื่อปี 2565 ซึ่งแผนของกลุ่มจี7 มุ่งหวังที่จะใช้ประโยชน์จากดอกเบี้ยที่ได้รับจากทรัพย์สินของรัสเซีย เพื่อเพิ่มเงินทุนให้กับยูเครน และมันจะเข้ามาแทนที่แผนการของอียูในปัจจุบัน ซึ่งมอบเงิน 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 57,000 ล้านบาท) แก่รัฐบาลเคียฟ เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา

ขณะที่รัฐสภายุโรป (อีพี) คาดว่าจะอนุมัติเงินกู้ดังกล่าว ในการประชุมช่วงปลายปีนี้ ซึ่งจะทำให้อียู สามารถมอบเงินให้กับยูเครนได้ในปีหน้า.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES