เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่าขณะนี้ยังไม่มีอะไรต้องกังวล เพราะน้ำที่ปล่อยมาจากเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ในระดับ 2,200 ลบ.ม./วินาที ยังอยู่ในระดับที่คันกั้นน้ำในกรุงเทพฯ ยังรองรับได้ แต่ที่ต้องเฝ้าระวังพิเศษก็ต่อเมื่อเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำถึง 3,000 ลบ.ม./วินาที ขึ้นไป

สิ่งที่หลายคนกังวล คือภาพน้ำท่วมใน จ.เชียงใหม่ เกรงว่ามวลน้ำจะไหลมาที่กรุงเทพฯ หรือไม่ ซึ่งต้องทำความเข้าใจว่าน้ำที่ท่วมในเชียงใหม่ขณะนี้ มวลน้ำทั้งหมดจะไหลไปลงเขื่อนภูมิพล ขณะนี้เขื่อนภูมิพลยังรับน้ำได้อีกมากกว่าร้อยละ 30 ยังสามารถรองรับมวลน้ำได้อีกหลายพันล้าน ลบ.ม.

ดังนั้นน้ำที่เห็นในเชียงใหม่จะไม่กระทบกรุงเทพฯ ส่วนที่เห็นภาพน้ำท่วมใน จ.พระนครศรีอยุธยา จ.นนทบุรี ขณะนี้ พบว่าจุดที่น้ำท่วมส่วนใหญ่เป็นพื้นที่นอกคันกั้นน้ำ โดยหากระดับน้ำขึ้น ก็จะได้รับกระทบอยู่แล้ว

นายชัชชาติ กล่าวต่อไปว่า ที่ต้องเฝ้าระวังอีกรอบในวันที่20 ต.ค.นี้ เนื่องจากเป็นช่วงน้ำทะเลหนุน แต่ถึงวันนั้นน้ำเหนือคงไม่ได้มาเยอะ น้ำฝนก็ไม่มีแล้ว คาดว่าไม่น่าเป็นห่วงอะไร ขอประชาชนไม่ต้องกังวล แต่ กทม.ไม่ได้ประมาท มีการจัดเจ้าหน้าที่เดินตรวจตามแนวคันตลอด ส่วนชุมชนนอกคันกั้นน้ำทำอะไรไม่ได้ เพราะเป็นพื้นที่นอกคัน แต่กทม.ได้ช่วยเรื่องกระสอบทราย และทำสะพานไม้ ทำทางเดินเข้าออก โดยชุมชนที่อยู่นอกคันที่ใหญ่ที่สุดคือชุมชนโรงสี เขตยานนาวา ส่วนจุดฟันหลอในกรุงเทพฯ ปัจจุบันมีทั้งหมด 120 จุด ทำไปแล้ว 64 จุด ที่เหลือเป็นจุดเอกชนกำลังเจรจา คาดว่าปีหน้าแล้วเสร็จ

“ในกทม.มีคันกั้นน้ำตลอดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ความยาว 88 กม. ความสูงอยู่ที่ 3.50 ม. แต่ระดับน้ำปัจจุบัน ยังต่ำกว่าคันมากกว่า 1 ม. ดังนั้นในส่วนนี้จึงยังไม่น่าเป็นห่วงอะไร แต่สิ่งที่เฝ้าระวังคือเรื่องฝนในพื้นที่ แต่ตอนนี้ก็พบว่าฝนก็เริ่มลดลงแล้ว เนื่องจากร่องมรสุมเคลื่อนลงไปทางภาคใต้แล้ว ส่วนกรุงเทพฯจะเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวแล้ว” นายชัชชาติกล่าว