เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรับร้องเรียนจาก น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 26 ปี แม่ค้าขายชานมไข่มุก ใน ต.หนองน้ำส้ม อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา กรณีถูกคนร้ายอาศัยอยู่ในชุมชน บุกเข้ามาทำร้ายร่างกาย พยายามจะข่มขืนชิงทรัพย์ภายในร้าน พร้อมกับนำภาพจากกล้องวงจรปิดเปิดให้ดูวินาทีขณะเกิดเหตุ พร้อมระบุว่า วันเกิดเหตุเป็นช่วงเย็นของวันเสาร์ที่ 5 ต.ค. 67 ที่ผ่านมา ขณะกำลังขายของอยู่ในร้านค้า ก็มี นายรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเรียนชั้นประถมศึกษา ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าร้าน จากนั้นมาชวนพูดคุยอยู่นาน ก่อนเดินเข้ามาในร้าน แล้วพุ่งเข้ามาใช้มือบีบคอตนแล้วพูดว่า “ขอหอมแก้มหน่อย” และพยายามจะถอดกางเกงตนออก

น.ส.เอ เล่าอีกว่า ตนพยายามขัดขืน นายรัฐธรรมนูญ จึงหยิบมีดที่อยู่ในร้านขึ้นมาขู่ พร้อมบอกให้ถอดสร้อยข้อมือทองคำออก แต่ตนพยายามขัดขืนและตะโกนให้ลุงซึ่งอยู่บ้านฝั่งตรงข้ามร้านช่วย โชคดีลุงได้ยินเสียงรีบเดินมาช่วย พร้อมตะโกนไล่ นายรัฐธรรมนูญ ให้ออกไปจากร้าน จึงรีบเดินหนีไปขึ้นรถจักรยานยนต์ ขี่หลบหนีไป ตนจึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.อุทัย

น.ส.เอ เล่าว่า ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อุทัย จับกุมตัว นายรัฐธรรมนูญ ได้ ก่อนนำตัวไปโรงพัก แต่พอตกเย็น ตนเห็น นายรัฐธรรมนูญ กลับมาเดินอยู่ในชุมชนเหมือนไม่ได้เกิดอะไรขึ้น ก็เลยรู้สึกแปลกใจว่าทำไมตำรวจถึงได้ปล่อยตัวมาเร็วจัง จึงโทรศัพท์สอบถามพนักงานสอบสวน แจ้งว่าได้ส่งตัว นายรัฐธรรมนูญ ไปที่โรงพยาบาลอุทัย เพื่อให้แพทย์ตรวจว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวช ต้องส่งตัวไปรักษาต่อ ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าปล่อยมาได้อย่างไร ทำให้ทุกวันนี้เกิดความหวั่นกลัว เกรงว่าจะกลับมาก่อเหตุในชุมชนอีก

นายคเชนทร์ อายุ 51 ปี ลุงของผู้เสียหายที่อยู่บ้านฝั่งตรงข้าม เล่าว่าขณะเกิดเหตุอยู่ในบ้าน แล้วได้ยินเสียงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ จึงวิ่งข้ามถนนมาที่ร้าน ก็เห็นผู้ก่อเหตุอยู่ในร้าน ตนจึงไล่ผู้ก่อเหตุให้ออกไป หลังจากนั้นตนก็เห็นว่าผู้ก่อเหตุไม่ได้ถูกควบคุมตัวดำเนินคดี อีกทั้งยังจะมาหาเรื่องตนเองอีกด้วย ตอนนี้คนในชุมชนก็หวาดระแวงกลัวจะถูกทำร้ายกันทั้งชุมชน

พ.ต.อ.มนัส อัดโดดดร ผกก.สภ.อุทัย เผยว่า พนักงานสอบสวนได้เรียกตัวผู้ก่อเหตุและผู้เสียหายมาสอบปากคำแล้ว แต่ผู้ก่อเหตุพบว่าพูดจาไม่รู้เรื่อง โดยทางญาติของผู้ก่อเหตุบอกว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวช ทางพนักงานสอบสวนจึงส่งตัวผู้ก่อเหตุไปให้แพทย์โรงพยาบาลอุทัย ตรวจ ซึ่งทางโรงพยาบาลแจ้งว่าผู้ก่อเหตุป่วยวิกลจริต ทางพนักงานสอบสวนจึงได้ปล่อยตัวไปชั่วคราว

พ.ต.อ.มนัส เผยอีกว่า ทั้งนี้ได้แจ้งกับทางญาติของผู้ก่อเหตุว่าวันที่ 15 ต.ค. ต้องพาผู้ก่อเหตุมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อส่งตัวไปรักษาที่สถาบันธัญญารักษ์ เพื่อให้แพทย์ยืนยันว่าผู้ก่อเหตุนั้นป่วยวิกลจริตจริงหรือไม่ ซึ่งหากแพทย์ตรวจยืนว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวช จะต้องทำการรักษา ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้น คาดว่าทางพนักงานสอบสวนอาจจะสื่อสารกับทางผู้เสียหายคลาดเคลื่อน เลยทำให้ไม่เข้าใจจนเกิดความเข้าใจผิดหวาดระแวง