เดือนตุลาคมของทุกปี เดือนแห่งการรณรงค์ต้านภัยมะเร็งเต้านม World Breast Cancer Awareness Month ซึ่งถือได้ว่าเป็นมะเร็งร้ายอันดับ 1 ของผู้หญิงทั่วโลก ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โดย ศูนย์มะเร็งวิทยา โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ร่วมกับ TBCC ชมรมผู้ป่วยมะเร็งเต้านมแห่งประเทศไทย และบริษัท โนวาร์ตีส ประเทศไทย จำกัด บูรณาการความร่วมมือจัดกิจกรรม Pink Power, A Mile to Smile ก้าวต่อไปเพื่อรอยยิ้มของผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ” ร่วมรณรงค์สร้างความตระหนักและเผยแพร่องค์ความรู้เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ตลอดจนผู้ดูแลและประชาชนผู้ที่สนใจ พร้อมปิดเครือข่ายชมรมเพื่อนมะเร็งเต้านม โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เพื่อเป็นสื่อกลางในการรวมกลุ่มของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของการรวมพลังกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่สามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ประสบการณ์ และสร้างแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น โดยมี ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน รักษาการรองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นประธานเปิดงาน ร่วมด้วย รองศาสตราจารย์ นายแพทย์สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ นำทีมแพทย์สหสาขาด้านโรคมะเร็งของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ นำโดย แพทย์หญิงจอมธนา ศิริไพบูลย์ ผู้อำนวยการศูนย์มะเร็งวิทยา, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปฏิบัติการ แพทย์หญิงปิยะรัตน์ ลิมปวิทยากุล แพทย์เฉพาะทางอายุรศาสตร์มะเร็งวิทยา และนายแพทย์ธไนศวรรย์ ปลูกผล แพทย์เฉพาะทางศัลยศาสตร์มะเร็งวิทยา เสวนาให้ความรู้นวัตกรรมการตรวจวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยมะเร็งมะเร็งเต้านม และการร่วมผนึกสร้างพลังสีชมพูของกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งเต้านมเพื่อสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ป่วยมะเร็งเต้านม โดยมี คุณอรวรรณ โอวรารินท์ ประธานชมรมผู้ป่วยมะเร็งเต้านมแห่งประเทศไทย , คุณไอรีล ไตรสารศรี รองประธานชมรมผู้ป่วยมะเร็งเต้านมแห่งประเทศไทย , เภสัชกรหญิงสุมาลี คริสธานินทร์ ประธานบริหาร บริษัท โนวาร์ตีส (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมด้วย คุณโอปอล-สุชาตา ช่วงศรี มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2567 , คุณพีรดา พีรศิลป์ นักเขียนและบรรณาธิการอิสระกับชีวิตที่ต้องเผชิญกับมะเร็งเต้านมสู่จุดเปลี่ยนของชีวิตและการค้นพบความสุขที่แท้จริง , คุณกัญณัฏฐ์ พิมไธสง ตัวแทนผู้ป่วยมะเร็งเต้านมโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และ ดร.หทัยทิพย์ จิระธันห์ เป็นพิธีกรดำเนินรายการเพื่อร่วมแบ่งปันประสบการณ์และส่งมอบกำลังใจเพื่อรอยยิ้มผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ภายในงานยังได้รับเกียรติจากแขกรับเชิญพิเศษ คุณรัดเกล้า อามระดิษ ร่วมมอบบทเพลงเพื่อส่งกำลังใจให้ผู้ป่วยมะเร็งเต้านม โดยกิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้น ณ ชั้น 1 อาคารโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ขนาด 400 เตียง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร

“มะเร็งเต้านม” เป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 1 ของสตรีไทยและสตรีทั่วโลก โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก กำหนดให้เดือนตุลาคมของทุกปี เป็นเดือนแห่งการรณรงค์ต้านภัยมะเร็งเต้านมสากล เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญต่อสุขภาพเต้านมของตนเอง และด้วยเทคโนโลยีการแพทย์ในปัจจุบัน โรคมะเร็งเต้านมสามารถตรวจพบได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรกซึ่งจะช่วยทำให้ผู้ป่วยได้เข้าถึงการรักษารวดเร็วและได้ผลดี เพิ่มอัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยได้สูงขึ้น และเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย โดยโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ จึงได้ผนึกความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายจัดกิจกรรม Pink Power, A Mile to Smile ก้าวต่อไปเพื่อรอยยิ้มของผู้ป่วยมะเร็งเต้านม โดยเปิดเวทีเสวนาให้ความรู้ในเรื่อง “นวัตกรรมการตรวจวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยมะเร็งมะเร็งเต้านม” ของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ซึ่งมุ่งเน้นการให้บริการทางการแพทย์ด้านโรคมะเร็งที่เป็นเลิศแก่ประชาชน โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ขาดแคลนเพื่อให้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีการตรวจรักษาโรคมะเร็งที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานอย่างเท่าเทียม สนองการดำเนินงานตามพระปณิธานใน ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จเจ้าฟ้า ฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานและนายกสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ผู้ทรงก่อตั้งโรงพยาบาลจุฬาภรณ์แห่งนี้ เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความทุกข์ทรมานของผู้ป่วยมะเร็งและญาติ ควบคู่ไปกับการพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ การค้นคว้าวิจัยทางด้านวิชาการ ตลอดจนยกระดับและพัฒนาด้านการตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคมะเร็งด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูงในประเทศไทยให้ได้มาตรฐานทัดเทียมนานาประเทศ ทั้งนี้ จากสถิติการรักษาผู้ป่วยมะเร็งของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ จำนวนผู้ป่วยมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับหนึ่ง คือ มะเร็งเต้านม โดยตั้งแต่ปี 2561 – 2566 มีจำนวนผู้ป่วยมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยในการรักษาผู้ป่วยแต่ละคนถึงแม้จะเป็นมะเร็งเต้านมเหมือนกัน แต่การรักษาแตกต่างกัน โดยแพทย์จะคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น ระยะของตัวโรค , ชนิดของมะเร็งเต้านม , pattern การกระจายตัวของโรค , อาการของผู้ป่วย , ความแข็งแรงของร่างกายผู้ป่วย เป็นต้น ทั้งนี้ ปัจจุบันมียามุ่งเป้าที่ออกฤทธิ์จำเพาะกับมะเร็งเต้านมซึ่งเลือกใช้ให้ตรงกับแต่ละชนิดของมะเร็งเต้านม ยกตัวอย่างเช่นในชนิด luminal subtype ที่มีการติดตัวรับฮอร์โมนเป็น positive ส่วน HER2 negative นั้น ก็จะมียามุ่งเป้าแบบกินที่บวกเข้าไปกับการกินยาต้านฮอร์โมนธรรมดา ซึ่งมีข้อมูลว่าช่วยคุมตัวโรคได้นานขึ้นและส่งผลให้ผู้ป่วยมีชีวิตยืนยาวขึ้นได้ อีกทั้งยาดังกล่าวผลข้างเคียงน้อยกว่าเคมีบำบัดด้วย ส่วนในชนิด HER2 positive ก็มีการใช้ยามุ่งเป้าแบบฉีดที่เป็นยาต้าน HER2 โดยให้คู่กันกับยาเคมีบำบัดก็จะช่วยให้เพิ่มประสิทธิภาพการรักษาได้มากขึ้นและมีผลข้างเคียงน้อย สำหรับปัจจัยเสี่ยงมะเร็งเต้านมเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น มีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านมหรือมะเร็งรังไข่ , พันธุกรรม เช่น การกลายพันธุ์ของ ยีน BRCA-1 หรือ BRCA-2 หรือการมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ความอ้วน ขาดการออกกำลังกาย สูบบุหรี่ ทานยาคุมกำเนิดหรือยาฮอร์โมนทดแทนนานเกิน 10 ปี หรือเคยได้รับการฉายแสงบริเวณทรวงอกเมื่ออายุน้อย เป็นต้น

การให้ความรู้เพื่อสร้างความตระหนักแก่ประชาชนว่าการตรวจพบมะเร็งเต้านมในระยะต้น ๆ และได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วเป็นแนวทางในการลดความเสี่ยงจากการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเต้านมได้ โดยแนวทางตรวจคัดกรอง มะเร็งเต้านม แนะนำให้ผู้หญิงอายุ 20 ปีขึ้นไป หมั่นตรวจคลำเต้านมด้วยตนเองทุกเดือน หลังมีประจำเดือนสัปดาห์ และผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป ควรตรวจคัดกรองด้วยวิธีแมมโมแกรม และอัลตราซาวด์เต้านมทุกปี สำหรับผู้ป่วยที่เคยเป็นมะเร็งหรือเนื้องอกเต้านมตรวจตามคำแนะนำแพทย์เพื่อติดตามผลการรักษา และสำหรับผู้ที่มีผลการตรวจทางพันธุกรรมที่ผิดปกติควรตรวจคัดกรองตั้งแต่อายุน้อยและบ่อยมากกว่าคนปกติ

สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://chulabhornchannel.cra.ac.th/news-activities/chulaphorn-hospital-news-activities/46984/