“การศึกษา” เป็นเรื่องสำคัญมากและทุกครอบครัวอยากเห็นลูกของตนเองได้รับการศึกษาที่ดีและสูงสุดเท่าที่จะทำได้ เพราะทุกคนเชื่อมั่นว่าการศึกษาสูงจะทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นและมั่นคง ซึ่งครอบครัว “กีรติชัยพันธ์” ก็มีความใฝ่ฝันเช่นนี้ที่อยากเห็นน้องวุฒิ หรือ ณัฐวุฒิ  กีรติชัยพันธ์ เด็กพิเศษดาวน์ซินโดรม (Down Syndrome) มีการศึกษาที่ดีและมีคุณภาพ แต่การจะก้าวเข้าสู่และผ่านการศึกษาในแต่ละระดับชั้นไปให้ได้นั้น ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ สำหรับครอบครัวที่มีน้องเป็นเด็กพิเศษ

วันที่ครอบครัวและน้องวุฒิ รอคอยก็มาถึง ช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมาน้องวุฒิได้เข้ารับปริญญาดุริยางคศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยดนตรีตะวันตก มบส. แถมได้รับรางวัลบัณฑิตดีเด่น และเป็นบัณฑิตใหม่เป็นที่เรียบร้อย โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา (มบส.) ที่เปิดโอกาสให้น้องวุฒิได้เข้ามาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในรั้วมหาวิทยาลัย และได้รับใบปริญญาที่มาช่วยการันตีความรู้ และความสามารถของน้อง

ต้องยอมรับก่อนที่น้องวุฒิจะประสบความสำเร็จได้ ส่วนหนึ่งมาจากสถานศึกษาที่เปิดกว้างและยอมรับในตัวเด็กพิเศษ ซึ่ง มบส. ก็เป็นหนึ่งในสถาบันที่ใจกว้างเปิดรับน้องเข้ามาเรียนร่วมกับเพื่อนปกติทั่วไปได้ เรามาฟังเสียงจากทางมหาวิทยาลัยกัน โดย ผศ.ดร.คณกร สว่างเจริญ อธิการบดี มบส. บอกว่า ต้องขอแสดงความยินดีกับน้องวุฒิและครอบครัวด้วยที่น้องสามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ จนสำเร็จการศึกษา ทั้งหมดนี้ต้องขอชื่นชมคุณพ่อและคุณแม่น้องวุฒิที่รัก พยายามและสนับสนุนลูกชายจนมาถึงจุดนี้ได้ รวมถึงตัวน้องวุฒิที่มีความมุ่งมั่นและความพยายาม ที่สำคัญถือเป็นแบบอย่างให้แก่นักศึกษาคนอื่นด้วย ทั้งนี้ มบส. เปิดโอกาสให้เด็กทุกคน รวมถึงเด็กพิเศษที่อยากจะเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยต้องได้เข้าศึกษา รวมทั้งยังอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ ด้วย ที่สำคัญมหาวิทยาลัยมีจุดมุ่งหมายในการสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) มาตลอด โดยเฉพาะเป้าหมายการสร้างหลักประกันว่าทุกคนมีการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างครอบคลุมและเท่าเทียม และสนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิตด้วย

จากความมุ่งมั่นของครอบครัว “กีรติชัยพันธ์” ทำให้หลายคนคงอยากรู้แล้วว่าครอบครัวน้องวุฒิมีเทคนิคในการเลี้ยงดูน้องวุฒิอย่างไรทำให้น้องก้าวมาถึงจุดนี้ได้ โดยคุณแม่ภรณี กีรติชัยพันธ์  เล่าประสบการณ์ให้ฟังว่า น้องวุฒิเป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว ตอนนี้น้องอายุ 24 ปีแล้ว พอรู้ว่าน้องวุฒิไม่ปกติเหมือนเด็กทั่วไป คุณพ่อกับคุณแม่ตั้งเป้าที่จะต้องไม่ปล่อยให้ลูกเป็นภาระสังคม ต้องพัฒนาให้น้องเหมือนเด็กปกติให้มากที่สุด โดยเฉพาะการเรียนเป็นเรื่องจำเป็นมาก ต้องช่วยน้องวุฒิอ่านหนังสือให้ออก เขียนหนังสือให้เป็น เพื่อเป็นเรื่องจำเป็นในชีวิตประจำวัน แม้ว่าการจะเข้าเรียนในแต่ละระดับชั้นของน้องวุฒิจะถูกโรงเรียนส่วนใหญ่ปฏิเสธก็ตาม  

คุณแม่ภรณี เล่าต่อว่า ช่วงอนุบาลจนถึง ป.1 น้องวุฒิเรียนที่โรงเรียนทานตะวัน ซึ่งระหว่างที่เรียน ป.1 ครูตูน หรือกฤษฎา ยินดีสุข ได้สังเกตเห็นว่าน้องวุฒิสนใจดนตรีเป็นพิเศษ และน้องจะตีกลองได้วันละหลายชั่วโมง ทำให้ค้นพบว่าน้องวุฒิมีความสามารถทางด้านดนตรี โดยเฉพาะการตีกลอง ครูตูน ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของ รศ.ดร.สุกรี เจริญสุข อดีตคณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ชวนคุณพ่อคุณแม่ไปหาอาจารย์สุกรี แนะนำการเล่นดนตรีให้น้องด้วย และเมื่อจบ ป.6 น้องได้ไปเรียน ม.1-3 ที่โรงเรียนวีรสุนทร ซึ่งเป็นช่วงที่หาโรงเรียนให้น้องยากมากๆ ต้องขอบคุณอาจารย์ปกรณ์ คงสุนทร เช่นกันที่ดูแลน้องเป็นอย่างดี และอาจารย์สุกรียังเปิดโอกาสให้น้องวุฒิเข้ามาเรียน ชั้น ม.4-6 ที่วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ม.มหิดล ซึ่งระหว่างที่เรียนน้องได้มีโอกาสฝึกฝนทางด้านดนตรีต่างๆอย่าเต็มที่ น้องวุฒิชอบมาก น้องสามารถเล่นดนตรีได้หลายอย่าง เช่น ไวโอลีน เปียโน มาริมบา หรือระนาดฝรั่ง ที่ชอบมากที่สุดคือ การตีกลอง

ช่วงในรั้วมหาวิทยาลัย คุณแม่ภรณี บอกว่า กว่าจะหาที่เรียนได้ก็ยากสุดๆ ซึ่งต้องขอบคุณมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ที่มองเห็นคุณค่าของเด็กพิเศษอย่างน้องวุฒิ และให้โอกาสเข้ามาเรียน ทำให้น้องได้พบเห็นสิ่งดีๆ ได้เรียนรู้สังคมที่กว้างขึ้น รวมถึงทีมอาจารย์สำนักกิจการศึกษา มบส. ก็ดูแลและอำนวยความสะดวกให้น้องมาตลอด 4 ปี

คุณแม่น้องวุฒิ ยังบอกอีกว่า แผนชีวิตของน้องวุฒิจากนี้ถึงเวลาที่น้องจะต้องฝึกทำงานจริงจัง ในเมื่อน้องชอบดนตรี เรียนจบสายตรงทางด้านดนตรี เป็นสิ่งที่ถนัด เราจึงฟันธงอาชีพของน้องวุฒิคือ “นักดนตรีเปิดหมวก” เพราะครอบครัวปูเส้นทางอาชีพนี้ให้น้องมาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ด้วยการพาน้องไปดูนักดนตรีเปิดหมวก เพื่อซึมซับในอาชีพ ซึ่งน้องชอบมากอยากแสดงออก และยังได้พบปะผู้คนมากมายยิ่งทำให้น้องได้ฝึกพัฒนาการด้านต่างๆ ด้วย โดยล่าสุดน้องวุฒิยังได้รับการคัดเลือกเข้ารับรางวัล “หม่อมงามจิตต์ บุรุฉัตร บุคคลสำคัญของโลก” รางวัลสร้างเสริม คนดีมีคุณธรรม ประจำปี 2567 ประเภทคนพิการดีเด่นในการพัฒนาคุณภาพชีวิตทางสติปัญญาหรือช่วงที่เรียน ม.ต้น น้องได้เสื้อสูทเกียรติยศจากโรงเรียนวีรสุนทร ได้ขึ้นคอนเสริ์ตใหญ่กับพี่เป๊ก ผลิตโชค อายนบุตร ที่พารากอน ฮอลล์  ได้ร่วมแสดงในงานเปิดหมวกนานาชาติเวิร์คพอยท์ นอกจากนี้ยังร่วมแสดงมินิคอนเสิร์ตกับพี่ศิลปิน เช่น ป้อม ออโต้บาน, ติ๊ก กลิ่นสี, ชรัส เฟื่องอารมณ์, วิยะดา โกมาระกุล ที่ร้านออโต้บาน เพื่อนำเงินรายได้บริจาคให้ผู้พิการติดเตียง งานนั้นได้เกือบ 200,000 บาท

สุดท้าย น้องวุฒิ ได้ฝากเป็นกำลังใจให้แก่ทุกครอบครัวที่มีลูก หรือพี่ น้อง และญาติที่เป็นเด็กพิเศษว่า ถ้าน้องๆ ชอบทำอะไรเป็นพิเศษ ขอให้ตั้งใจทำให้เต็มที่ ฝากติดตามและเป็นกำลังใจให้น้องวุฒิในช่องทางต่างๆ ช่องยูทูบ กด subscribe ที่ Drummonte Offcial, Amazing Drum น้องวุฒิตีสุดใจ เฟซบุ๊ก Amazing Drum น้องวุฒิตีสุดใจ, Drummonte ติ๊กต็อก Drummonte.official หรือใครสนใจจ้างน้องมาแสดงความสามารถติดต่อได้ที่โทร. 08-9664-6624

เป็นอีกครอบครัวเด็กพิเศษที่ไม่เคยคิดจะยอมแพ้กับชีวิต เชื่อว่าในอนาคตเราอาจจะได้เห็นความสามารถพิเศษ หรืออัจฉริยะจากดวงดาวพิเศษอีกหลายดวง