สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ว่า นายอีลอน มัสก์ อภิมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก ให้สัมภาษณ์พิเศษในรายการของนายทักเกอร์ คาร์ลสัน หนึ่งในผู้สื่อข่าวและผู้ดำเนินรายการสายอนุรักษนิยมชื่อดังของสหรัฐ เกี่ยวกับมุมมองที่มีต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดี ว่าหากนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดี ซึ่งเป็นตัวแทนของพรรครีพับลิกัน ไม่ชนะการเลือกตั้งในวันที่ 5 พ.ย. นี้ “การเลือกตั้งครั้งนี้อาจเป็นครั้งสุดท้าย”


มัสก์กล่าวต่อไปว่า มีการเคลื่อนย้ายผู้อพยพผิดกฎหมาย กระจายไปตามกลุ่มรัฐสวิงสเตต ที่จะเป็นผู้ชี้ขาดการเลือกตั้งครั้งนี้ และหากกลุ่มคนเหล่านี้ได้รับสัญชาติสหรัฐในที่สุด จะลงคะแนนให้กับพรรคเดโมแครต


ทั้งนี้ ผลคะแนนเลือกตั้งในรัฐสวิงสเตต มักต่างกันประมาณ 10,000-20,000 คะแนน มัสก์จึงตั้งคำถามว่า แล้วจะเกิดอะไรขึ้น หากมีการส่งผู้อพยพผิดดฎหมายเหล่านั้น เข้าไปยังกลุ่มรัฐสวิงสเตตจริง


มัสก์กล่าวอีกว่า หากสหรัฐจะยังอยู่ภายใต้การบริหารโดยรัฐบาลพรรคเดโมแครต อีกอย่างน้อย 4 ปี ผู้อพยพผิดกฎหมายจะได้รับสัญชาติสหรัฐเพิ่มอีกจำนวนมาก และในที่สุดการเลือกตั้งของอเมริกา จะกลายเป็น “รัฐที่มีพรรคการเมืองเดียว”

แม้มัสก์เป็นชาวแอฟริกาใต้ แต่มีอิทธิพลมากขึ้นในทางการเมืองของสหรัฐ โดยเฉพาะกับฝ่ายอนุรักษนิยม และเจ้าตัวแสดงจุดยืนสนับสนุนทรัมป์อย่างชัดเจนที่สุด จากการร่วมขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงกับอีกฝ่าย ที่รัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมัสก์ประกาศว่า “พร้อมทุ่มหมดหน้าตัก” เพื่อสนับสนุนทรัมป์


อย่างไรก็ตาม มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่ายเช่นกัน เกี่ยวกับการที่มัสก์จัดแคมเปญ มอบเงิน 47 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,572.62 บาท) ให้แก่ผู้มีสิทธิออกเสียงใน 7 รัฐสวิงสเตตของการเลือกตั้งครั้งนี้ ได้แก่ จอร์เจีย มิชิแกน เพนซิลเวเนีย แอริโซนา นอร์ทแคโรไลนา เนวาดา และวิสคอนซิน หากร่วมลงชื่อสนับสนุนการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญสหรัฐครั้งที่หนึ่ง และครั้งที่สอง แต่ผู้ที่ลงทะเบียนต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวด้วย.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES