สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ว่า ตั้งแต่กลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566 จนถึงวันที่ 24 ก.ย. 2567 มีรายงานเหตุการณ์ต่อต้านชาวยิวมากถึง 10,000 ครั้ง นับเป็นจำนวนสูงสุด ตั้งแต่เริ่มจดบันทึกอย่างเป็นทางการ เมื่อปี 2522

รายงานดังกล่าวได้รับการเผยแพร่เพียงไม่กี่วัน หลังสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) และกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐ เตือนถึงความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น ท่ามกลางวิกฤติตึงเครียด และความวุ่นวายในตะวันออกกลาง

เหตุการณ์ต่อต้านชาวยิวมากกว่า 10,000 กรณี รวมถึงการคุกคามด้วยวาจาหรือลายลักษณ์อักษรประมาณ 8,015 กรณี, การก่อวินาศกรรม 1,840 กรณี และการทำร้ายร่างกาย 150 กรณี โดยจำนวนการรายงานสูงสุดมาจาก รัฐแคลิฟอร์เนีย 1,266 กรณี, รัฐนิวยอร์ก 1,218 กรณี, รัฐนิวเจอร์ซีย์ 830 กรณี และรัฐฟลอริดา 463 กรณี

ทั้งนี้ คาดว่าตัวเลขจะสูงขึ้นในรายงานฉบับสมบูรณ์ประจำปี 2567 ซึ่งจะถูกเผยแพร่ในฤดูใบไม้ผลิปีหน้า

การเพิ่มขึ้นโดยรวม เป็นผลมาจากการสนับสนุนฝ่ายต่อต้านลัทธิไซออนิสต์ และอิสราเอล ซึ่งมากกว่า 3,000 กรณี เกิดขึ้นระหว่างการชุมนุมต่อต้านอิสราเอล แต่หากไม่รวมตัวเลขจากเหตุการณ์เหล่านี้ ยังมีรายงานเหตุการณ์ต่อต้านชาวยิว 7,523 ครั้ง ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 103 จากปี 2565

ความรุนแรงจากปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในฉนวนกาซา ซึ่งส่งผลให้ชาวปาเลสไตน์ถูกสังหารอย่างน้อย 41,870 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 97,000 ราย ได้จุดชนวนการประท้วงเพื่อมนุษยธรรมทั่วสหรัฐ

ขณะเดียวกัน เหตุการณ์ต่อต้านชาวมุสลิมเพิ่มขึ้นถึง 8,061 กรณี ในปี 2566 ตามรายงานของสภาความสัมพันธ์อิสลามอเมริกัน (ซีเอไออาร์) เมื่อเดือน เม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 30 ปี นับตั้งแต่เกิดการโจมตีในฉนวนกาซาเมื่อเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว.

เครดิตภาพ : AFP