เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 7 ต.ค. ที่โรงแรม สยาม เคมปินสกี้ ถนนพระรามที่ 1 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งหลายพื้นที่ยังอยู่ในวิกฤติ ว่า เห็นข่าวแล้ว ขอส่งความห่วงใยไปถึงคนเชียงใหม่ด้วยเพราะหลายจุดจริงๆ แต่เราก็มีศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ส่วนหน้า เข้าไปดูแล แต่จากการสอบถามประชาชนในพื้นที่ ก็ถือว่าโชคดีเพราะได้รับ SMS แจ้งเตือนก่อนล่วงหน้าหลายวัน จึงมีการเตรียมการพอสมควร แต่เมื่อน้ำมาจริงๆ ก็ถือว่าหนัก ซึ่งทุกฝ่ายก็ช่วยกันเต็มที่ ขณะที่ ศปช.ส่วนหน้า ก็ลงพื้นที่และรายงานมายังส่วนกลางตลอด ประชาชนสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทุกทาง ไม่ว่าจะเป็นสายด่วน 1567 หรือช่องทางออนไลน์อื่นๆ หรือจะติดต่อที่ ศปช.ส่วนหน้าโดยตรง มี น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวานิช รมช.มหาดไทย ในฐานะประธาน ศปช.ส่วนหน้า และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะที่ปรึกษา ศปช. อยู่ในพื้นที่ทั้งเชียงรายและเชียงใหม่ และให้คนสแตนด์บาย รวมถึงรถ อาหาร ที่จะเข้าไปช่วยเหลือทุกอย่างมีความพร้อมหมด นอกจากนี้ยังต้องขอบคุณและส่งกำลังใจให้อาสาสมัครที่รุมกันเข้ามาช่วยด้วย

เมื่อถามว่าสถาณการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดเชียงใหม่ ถือว่าหนักกว่าหลายๆ ปี จะถือโอกาสปรับเปลี่ยนเรื่อง ผังเมืองให้รับกับสถานการณ์น้ำหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องเป็นภาพใหญ่ เราต้องมีแพลน เอ บี ซี และดี ลำดับแรกคือแก้ปัญหาเฉพาะหน้าว่ารับมือได้แค่ไหน การเยียวยาต้องเกิดขึ้นเร็วที่สุด แต่เรื่องแผนจัดการน้ำระยะยาว ต้องมาคุยกัน ต้องมีคณะกรรมการพูดคุยอย่างอย่างจริงจัง ต้องนำผู้รู้มาวางแผน ส่วนตัวยอมรับว่า เห็นน้ำท่วมตั้งแต่ช่วงหาเสียง อยากวางแผนระยะยาวให้จบ และเป็นสิ่งที่ยึดไว้ว่า ไม่ว่าจะรัฐบาลไหนให้ทำเรื่องนี้ต่อให้จบ เพราะเป็นประโยชน์ต่อประเทศจริง ซึ่งจะนำเรื่องนี้ไปพูดคุยใน ครม. เพื่อดูว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง ให้ ครม. ช่วยกันคิดว่าจะวางแผนระยะยาวได้อย่างไร ถ้าจะใช้เวลาถึง 10 ปีในการซ่อมและสร้าง ก็ต้องใช้เพราะเป็นสิ่งที่ต้องทำ หากเทียบกับงบฯ แก้ปัญหาเฉพาะหน้า ก็ถือว่ามากพอสมควร แต่เรื่องแผนระยะยาวต้องผลักดันให้เกิดขึ้นให้ได้

เมื่อถามถึงแผนรับมือในพื้นที่ลุ่มภาคกลาง ที่เริ่มได้รับผลกระทบแล้ว ขณะเดียวกันก็มีพื้นที่เหนือเขื่อนที่คันกั้นน้ำแตก น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ได้มอนิเตอร์เรื่องคันกั้นน้ำ แต่เรื่องของน้ำท่วมจากที่ได้พูดคุยกับกรมชลประทานในส่วนของเขื่อนเจ้าพระยา ยังมีพื้นที่รับน้ำได้อีกเยอะ หากมีฝนตกลงมาอาตจะมีท่วมบ้างแต่ไม่หนักเหมือนภาคเหนือ และได้ดูเรื่องพายุด้วย ที่คาดการณ์ว่าจะไม่เข้ามาเยอะเหมือนปี 54 แต่ต้องยอมรับว่าปีนี้ฝนตกหนักกว่าปกติ

เมื่อถามอีกว่าในการประชุมสุดยอดอาเซียนวันที่ 8 ต.ค. จะมีการพูดคุยกับประเทศเมียนมาถึงการปล่อยน้ำ และการรุกล้ำพื้นที่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องการพูดคุยกับเมียนมา ถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เชียงราย ก่อนหน้านี้ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ ได้พูดคุยกันรอบหนึ่งแล้ว ในเรื่องของพื้นที่ต่างๆ เรื่องการบุกรุกพื้นที่ทั้งสองฝั่ง ทำให้น้ำไม่สามารถระบายได้สะดวก ได้พูดคุยไป และมีการขอความร่วมมือซึ่งกันและกัน ซึ่งการคุยกันเป็นไปในทางที่ดี โดยจะต้องคุยเรื่องนี้อย่างแน่นอน และยังมีอีกหลายๆ ประเด็นที่ต้องพูดคุย ทั้งเศรษฐกิจ การลงทุน และความสงบ.