นายวสวรรธน์ (กังฟู) พวงพรศรี หัวหน้าพรรคไทรวมพลัง เปิดเผยว่า มีงบในสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมส่งเสริมการเกษตรและกรมวิชาการเกษตรได้เตรียมงบประมาณปี 68 เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ส่วนตัวมองว่าไม่เพียงพอ อยากให้จัดเตรียมของปี 69 ให้จัดทำงบประมาณให้มากกว่านี้ โดยจะเน้นไปที่การขยายพันธุ์มันสำปะหลังที่มีความต้านทานต่อโรคใบด่าง แต่ยอมรับว่าขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม และสถานการณ์การระบาดกำลังสร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรอย่างมาก โดยในผลสำรวจล่าสุดระบุว่า พื้นที่เพาะปลูกมันสำปะหลังในฤดูการผลิตปี 2567/68 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น แต่ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่กลับลดลง ส่งผลให้เกษตรกรมีความเสี่ยงที่จะขาดทุนหากไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที นอกจากนี้ ปัญหาอื่นๆ เช่น การขาดแคลนพันธุ์มันสำปะหลังที่มีคุณภาพและการปลูกพืชอื่นแทนที่มันสำปะหลัง ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการฟื้นฟูสถานการณ์การผลิต ขอเรียกร้องให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ใช้งบฉุกเฉินในการขยายพันธุ์มันสำปะหลังที่ต้านทานโรคให้กับเกษตรกรโดยเร็วที่สุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในระยะสั้น

สำหรับในฤดูเก็บเกี่ยว 2567/68 ปริมาณผลผลิตที่คาดการณ์จากการสำรวจฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงจากปัจจัยนี้จากสภาพแห้งแล้งยาวนาน ในช่วงต้นของการเพาะปลูก เกษตรกรมีการปลูกซ่อมโดยใช้พันธุ์มันสำปะหลังที่ติดโรคมาเพาะปลูก ทำให้การระบาดของโรคใบด่างมันสำปะหลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนไม่สามารถควบคุมได้ และระบาดครอบคลุมไปทั่วทุกพื้นที่ ส่งผลให้ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่อาจลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ ข้อมูลที่ได้จากผู้ประกอบการและภาคราชการในหลายพื้นที่ ไม่ได้นำปัจจัยผลกระทบจากโรคใบด่างและดินทรายที่เจือปนอยู่ในหัวมันสำปะหลังมาคิดคำนวณผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ นอกจากนี้ ยังได้เสนอให้มีการนัดประชุมหารือร่วมระหว่าง 4 สมาคมที่เกี่ยวข้องกับการค้ามันสำปะหลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สถาบันมูลนิธิมันห้วยบง สมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย และสภาอุตสาหกรรม เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาและส่งเสริมการผลิตมันสำปะหลังในอนาคต อีกทั้งแก้ไขปัญหาโรคใบด่างมันสำปะหลังอย่างทันท่วงที เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อรักษาเสถียรภาพของอุตสาหกรรมมันสำปะหลังและปกป้องชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกร ที่พึ่งพาการปลูกมันสำปะหลังในการเลี้ยงชีพเป็นหลัก