วันนี้แล้ว ที่มีการเปิดซื้อขาย “กองทุนวายุภักษ์หนึ่ง“ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หนึ่งในมาตรการของทางรัฐบาลที่ใช้ชุบชีวิตตลาดหุ้นไทยปีนี้ 

โดยหุ้นกลุ่มไหนบ้างที่จะได้ประโยชน์จากกองทุนวายุภักษฺหนึ่งครั้งนี้ ตามข้อมูลของ บล.กรุงศรี ได้แก่

กลุ่มที่ 1 หุ้นที่คลังถือหุ้น, อยู่ในกองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง และเติบโตดีในปี 2567-2568 ได้แก่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT, ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT

กลุ่มที่ 2 หุ้นอยู่ในกองทุนรวมวายภักษ์หนึ่ง และซื้อขายในระดับ Valuation Zone การเติบโตดี ได้แก่ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC, บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT, บริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC, บริษัท โฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO, และบริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP

กลุ่มที่ 3 หุ้นที่มีน้ำหนักใน SETESG สูง เติบโตดี อยู่ในTheme Data Center ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC, บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF

กลุ่มที่ 4 หุ้นได้ประโยชน์จากกองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง ดิวิเดนด์ยีลด์ปี 2567-2568 สูงมากกว่า 5% และอยู่ใน Thai ESG ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK, ธนาคารกรุงเทพ จ๋ากัด (มหาชน) หรือ BBI, HMPRO, และบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH 

กลุ่มที่ 5 หุ้นที่ยังมีน้ำหนักในกองทุนรวมวายภักษ์หนึ่งน้อย ขณะที่เข้าเกณฑ์ ESG Score (ถ้าอยู่ใน SET100 เรตติ้ง A ขึ้นไป ต่ำกว่า SET100 เรตติ้ง AA ขึ้นไป การเติบโตปี 2567-2568 เกณฑ์ดี ได้แก่ CPALL, บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXTT, บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS, CRC, HMPRO, บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL, บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC, บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC, บริษัท ดับบลิว เอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA