ที่องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี นายสมพร ศรีเมือง ผู้อำนวยการส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย ( อ.ส.ค.) พร้อมคณะผู้บริหาร พนักงานเจ้าหน้าที่ฯ ได้ให้การต้อนรับ Mr.Henning Hoy Nyaard อัครราชทูตที่ปรึกษาการเกษตร อาหาร และประมง จากสถาน เอกอัครราชทูตเดนมาร์ก และคณะสื่อมวลชนเกษตรนานาชาติ จาก 13 ประเทศทั่วโลก ประกอบด้วย ออสเตรเลีย สโลวีเนีย เดนมาร์ก สโลวีเนีย เบลเยียม สหรัฐอเมริกา ออสเตรีย สเปน ญี่ปุ่น เบลเยียม เยอรมันนี และไทย  ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่แสดงถึงความร่วมมือที่แข็งแกร่งและยาวนานระหว่างประเทศไทย และราชอาณาจักรเดนมาร์ก ในด้านการพัฒนาการเกษตรและอุตสาหกรรมน้ำนมที่ยั่งยืน โดยคณะอัครราชทูต/สื่อมวลชนต่างชาติ และไทยได้รับเข้าฟังการบรรยายสรุปถึงกิจการและชมกระบวนการผลิต “นมไทย-เดนมาร์ค” ครบวงจร

นายสมพร ศรีเมือง ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) กล่าวว่า เพื่อร่วมผลักดันการพัฒนาการเลี้ยง โคนมมาอย่างต่อเนื่องดำเนินงานกายใต้ปณิธานในการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเลี้ยงโคนมในประเทศไทย ให้มีความยั่งยืน ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่ง ที่มีการต่อยอดการพัฒนาสายพันธุ์โคนมในประเทศไทย ซึ่งจะเป็น ประโยชน์อย่างยิ่งกับเกษตรกรไทย และยังสามารถพัฒนาให้มีนวัตกรรมและมีเทคโนโลยี ที่จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพทั้งน้ำนมโค และวิธีการเลี้ยงโคนมให้มีประสิทธิภาพ มากยิ่งขึ้นตามพระราชดำริ ของทั้ง 2 พระมหากษัตริย์ คือ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 แห่งประเทศไทย และพระเจ้าเฟรดเดอริกที่ 9 แห่งประเทศเดนมาร์ก นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นว่าระยะทางระหว่างสองประเทศไม่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ยาวนานมากว่า 400 ปี และจะยังคงพัฒนาด้านโคนมระหว่างกันสืบไป ดังเช่น การพัฒนาพันธุ์โคนม เทคโลยีการเลี้ยงโดนม การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การจัดการฟาร์และสวัลดิภาพสัตว์ โครงการ”ถ่ายฝากตัวอ่อน”สายพันธุ์วัวแดง ตั้งแต่ พ.ต่. 2505 เป็นต้นมา

“การเลี้ยงโคนมเป็นอีกหนึ่งพระราชดำริที่กลายมาเป็นอาชีพที่ช่วยให้เกษตรกรไทยมีความเป็นอยู่ทียั่งยืนและมั่นคงขึ้น เพราะพระองค์ทรงวางรากฐานการเลี้ยงโคนมไว้อย่างครบวงจร และสนับสนุนให้เกษตรกรไทยได้มีอาชีพการเลี้ยงโคนม จนนับว่าอาชีพการเลี้ยงโคนมเป็นอาชีพพระราชทาน” ที่เปลี่ยนชีวิตของเกษตรกรไทยให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งการที่พระองค์ทรงสนับสนุนการเลี้ยงโคนมในประเทศไทยนั้น ที่สำคัญยังเป็นการช่วยให้ประชาชนมีอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมไทยมาจากกอดีตจนถึงปัจจุบันด้วย นายสมพร กล่าว

ผอ. อ.ส.ค. กล่าวอีกว่า อ.ส.ค. พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมืออันยาวนานระหว่าง 2 ประเทศด้วยความมุ่งหวังในการพัฒนาอุตสาหกรรมโคนมไทยให้มีคุณภาพ สร้างความเข้มแข็งในองค์กรโคนมและบูรณาการบริหารจัดการ เน้นการลดต้นทุนการผลิตในอุตสาหกรรมโคนมของประเทศเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของเกษตรกรโดยมุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมนมไทยให้ยั่งยืน เพื่อให้ได้น้ำนมที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค และสามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้

Mr. Henning Hoy Nyaard อัครราชทูตที่ปรึกษาการเกษตร อาหาร และประมง จากสถานเอกอัครราชทูตเดนมาร์ก ประจำประเทศไทย กล่าวว่า การเยี่ยมชมฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์คในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการเผยแพร่ และประชาสัมพันธ์ความร่วมมืออันยิ่งใหญ่ระหว่างประเทศไทยและราชอาณาจักรเดนมาร์ก และยังคงเน้นย้ำถึงการพัฒนาทางการเกษตรที่ยั่งยืน ซึ่งจะนำไปสู่ความก้าวหน้าและความเจริญรุ่งเรืองของทั้งสองประเทศในอนาคต.