สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ว่านายไอแซก เฮอร์ซอก ประธานาธิบดีอิสราเอล กล่าวเนื่องในวันครบรอบ 1 ปี เหตุการณ์กลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566 ซึ่งเป็นชนวนของสงครามในฉนวนกาซา ที่ยืดเยื้อจนถึงปัจจุบัน ว่าอิสราเอลยังคงเผชิญกับ “ภัยคุกคามอย่างต่อเนื่อง” จากอิหร่าน และบรรดา “ตัวแทนก่อการร้าย”


ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล กล่าวว่า ตอนนี้กองทัพอิสราเอลกำลังต่อสู้ในหลายสมรภูมิ กับกองกำลังที่ได้รับความสนับสนุนจากอิหร่าน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มฮามาส ในฉนวนกาซา กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ในเลบานอน และกลุ่มฮูตี ในเยเมน ทั้งสามกลุ่มรวมตัวกันในนาม “อักษะแห่งการต่อต้าน” เพื่อก่อการร้ายกับอิสราเอล แต่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส กลับเรียกร้องให้นานาชาติยุติมอบความสนับสนุนด้านอาวุธให้แก่อิสราเอล “ซึ่งน่าละอายสิ้นดี”


ทั้งนี้ เนทันยาฮูยืนยันว่า อิสราเอลจะยังคงเป็นฝ่ายชนะสงครามครั้งนี้ ต่อให้ไม่ได้รับความสนับสนุนจากฝ่ายใดเลย


ด้านกองทัพอิสราเอลออกแถลงการณ์ ว่าสามารถสังหารสมาชิกกลุ่มฮิซบอลเลาะห์มากกว่า 440 ราย ในจำนวนนี้รวมถึงสมาชิกระดับสูงอย่างน้อย 30 ราย นับตั้งแต่เปิดฉากปฏิบัติการภาคพื้นดินในเลบานอน เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมา

เกี่ยวกับการตอบโต้อิหร่าน ซึ่งยิงขีปนาวุธ 200 ลูกใส่อิสราเอล เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยรัฐบาลเตหะรานให้เหตุผลว่า เพื่อตอบสนองการที่อิสราเอลสังหารทหารระดับสูงของอิหร่านหลายนาย และพันธมิตรหลายรายในกลุ่มฮามาส และกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ แหล่งข่าวระดับสูงในกองทัพอิสราเอลกล่าวว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง “กำลังเตรียมการ”.

เครดิตภาพ : AFP