เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 5 ต.ค. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ พล.ต.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ควบคุมการปฏิบัติ ให้ ตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช และชุมพร ดำเนินการออกติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนราธิวาส ในคดีที่ น.ส.ฟาตีฮะห์ ปะจูกูเล็ง กับพวกรวม 48 คน ยื่นฟ้อง พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี กับพวกรวม 9 คน ในความผิดต่อชีวิตและเสรีภาพ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ในพื้นที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เหตุเกิดเมื่อตุลาคม 2547 ซึ่งล่าสุด เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 ศาลจังหวัดนราธิวาสได้ออกหมายจับ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี กับพวกรวม 9 คน หลังไม่ไปศาลตามกำหนด

โดยที่ จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี สั่งการให้ พ.ต.อ.ไพศาล สังข์เทพ รอง ผบก. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปริญญา ตันฑสุวรรณ ผกก.สืบสวน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี, พ.ต.ท.วิทยา พิทักษ์ รอง ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.8 นำกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมหมายจับศาลจังหวัดนราธิวาส ที่ 165/2567 ลงวันที่ 12 กันยายน 2567 และหมายค้นศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ 198/67 ลง 5 ตุลาคม 2567 เข้าตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 78/2 ถนนการุณราษฎร์ ต.ตลาด อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นพักของ พล.ต.ท.มาโนช ไกรวงศ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9

เมื่อกำลังเจ้าหน้าที่ไปถึง พบเพียง นางเพ็ญศรี อนุโต อายุ 48 ปี รับเป็นผู้เฝ้าบ้าน แต่ไม่พบตัว พล.ต.ท.มาโนช ก่อนนางเพ็ญศรี จะนำเจ้าหน้าที่ตรวจค้นอย่างละเอียด และจากการสอบถามนางเพ็ญศรี แจ้งว่า พล.ต.ท.มาโนช ไม่ได้มาที่บ้านหลังดังกล่าวหลายเดือนแล้ว มีเพียงตนเฝ้าดูแลบ้านตามลำพัง

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน เร่งสืบสวนหาข่าวและประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจับกุมตัวจำเลยมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

ที่ จ.นครศรีธรรมราช พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พ.ต.อ.พิศิษฐ์ วิเศษวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 นำหมายค้นศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ไปทำการตรวจค้นบ้านพักของจำเลย 3 จุด ประกอบด้วย บ้านเลขที่ 2 ซอยปิยะบุตร ถนนพัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบ้านพักของนายวิชม ทองสงค์ อดีต ผวจ.นราธิวาส จำเลยที่ 9 ปรากฏว่าไม่พบตัวนายวิชม แต่อย่างใด พบเพียงลูกสาวและคนดูแลบ้าน ได้นำเข้าตรวจค้นห้องพักต่างๆ อย่างละเอียดทุกห้อง ก็ไม่พบตัวนายวิชม แต่อย่างใด ทางตำรวจจึงทำบันทึกผลการตรวจค้นต่อไปว่าไม่พบตัวนายวิชม จุดที่ 2 บ้านเลขที่ 156/1 หมู่ 1 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบ้านพักของ จ.ส.อ.ปิติ ญาณแก้ว ตามหมายจับของศาลจังหวัดปัตตานี แต่ก็ไม่พบตัวเช่นเดียวกัน จุดที่ 3 เข้าตรวจค้นบ้านพักในค่ายทหาร ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร ต.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบ้านพักของ ร.ท.ฤทธิรงค์ พรหมฤทธิ์ ไม่พบตัวเช่นกัน

และที่ จ.ชุมพร พ.ต.อ.จิตเกษม สนขำ รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.ชุมพร พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิษณุ สุระวดี ผกก.สภ.สวี นำกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมหมายจับและหมายศาลจังหวัดหลังสวน เข้าบ้านเลขที่ 2 หมู่ที่ 3  ต.ท่าหิน อ.สวี จ.ชุมพร ซึ่งเป็นบ้านพักของ พ.ท.ประเสริฐ มัทมิฬ แต่ไม่พบตัวเช่นกัน

ด้าน พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวว่า ในการตรวจค้นเพื่อติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับทั้ง 5 จุด ในพื้นที่ภาค 8 ผลปฏิบัติไม่พบตัวผู้ต้องหา ซึ่งได้กำชับให้ กองบังคับการ ทั้ง 3 จังหวัด เร่งรัดสืบสวน และประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป