เมื่อวันที่ 4 ต.ค. นายพายัพ ปั้นเกตุ อดีต สส.สิงห์บุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่สอดคล้องกับกลุ่มต่อต้านรัฐบาล ที่นำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ว่า ขณะนี้ พี่น้องประชาชนเพื่อหน่ายกับความเคลื่อนไหวนอกสภา และความพยายามสร้างแรงสั่นสะเทือนให้รัฐบาลด้วยวิธีการนอกระบบทุกรูปแบบ เพราะทุกคนต้องการให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ดังนั้นใครก็ตามที่คิดโค่นล้มรัฐบาล ควรสงสารประชาชน ให้เวลารัฐบาลได้แก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนบ้าง หากอยากเป็นนายกรัฐมนตรีสักครั้งในชีวิต ก็ควรอดทนรอเสนอตัวให้ประชาชนเลือกในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ซึ่งก็อีกไม่กี่ปีแล้ว

“แทนที่รัฐบาลนายกฯ แพทองธาร จะได้ใช้เวลาทำงานให้ประเทศชาติ ได้เต็มที่เต็มความสามารถ มีประสิทธิภาพ ก็ต้องมามีเรื่องกวนใจ กวนความรู้สึกตลอดเวลา จนทำให้การแก้ไขปัญหาของประชาชนสะดุดเรื่อยมา ใครอยู่เบื้องหลังการก่อกวนการแก้ไขปัญหาประเทศอยู่ พี่น้องประชาชนรับทราบกันเป็นอย่างดี ตนในฐานะที่อยู่กับการเมืองมานาน เห็นการกระทำของคนพวกนี้แล้ว รู้สึกสงสารประชาชนอย่างมาก และผมก็คิดว่า พล.อ.ประวิตร ที่เป็นถึงนายทหารใหญ่ ก็น่าจะรู้สึกสงสารพี่น้องประชาชนไม่ต่างกัน” 

นายพายัพ กล่าวอีกว่า วันนี้ทุกความเคลื่อนไหวของนักการเมือง ไม่ว่าจะอยู่ฉากหน้าหรือแอบไปอยู่เบื้องหลังกระทำการใดๆ โดยเฉพาะการคิดและทำในสิ่งที่เป็นอุปสรรคต่อประชาธิปไตย พี่น้องประชาชนตื้นลึกหนาบางหมด เรื่องบางเรื่องที่คิดกันว่าเป็นความลับ แต่ในความเป็นจริง พี่น้องประชาชนรู้ทั้งหมดแล้ว อย่างเรื่อง พล.อ.ประวิตร ขาดประชุมสภา โดยใช้วันลาเป็นฉากบังหน้า 90% ของวันประชุม จนแทบจะเป็นสถิติโลกได้เลย แล้วมาประกาศขอคืนเงินเดือน สส. และจะไม่รับเงินตำแหน่ง ผู้คนในสังคมก็มองออกว่าไม่มีทางพ้นผิดทางกฎหมาย เพราะความผิดสำเร็จแล้ว คนเป็น สส. เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องมีความรับผิดชอบสูงกว่าประชาชน หรือพวกอดีตแกนนำม็อบอย่างสนธิ ลิ้มทองกุล หรือ จตุพร พรหมพันธุ์ หรืออดีต สว.บางคนที่อยู่ในกลุ่ม 40 สว. ก็เหมือนยาหมดอายุแล้ว ที่จะค้าความขัดแย้ง.

“วันนี้ประชาชนเบื่อความขัดแย้ง เพราะเขามองออกแล้วไม่ว่าฝ่ายไหน ก็น่าจะทำเพื่อประโยชน์ตนเองมากกว่า ผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ และวันนี้ปัญหาต่างๆ ก็รุมเร้าประชาชนและประเทศชาติ ทุกฝ่ายต่างอยากจะช่วยกันหาทางออก การไม่ช่วยหาทางออกแล้วยังมาเตรียมการปั่นป่วน สร้างปัญหาภายในประเทศ จึงเป็นวิธีการที่พี่น้องประชาชนจะไม่ตอบรับอีกต่อไป” นายพายัพ กล่าว