สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ว่า เซเลนสกี กล่าวกับบรรดาผู้บริหารจากบริษัทผลิตอาวุธต่างประเทศหลายสิบแห่ง ในกรุงเคียฟ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ยูเครนทำสัญญาเพื่อผลิตโดรน 1.5 ล้านลำในปีนี้แล้ว

“ในสถานการณ์ที่ยากลำบากอย่างยิ่งของสงครามเต็มรูปแบบ ภายใต้การโจมตีอย่างต่อเนื่องของรัสเซีย ชาวยูเครนจึงสามารถสร้างอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศแบบใหม่ได้” เซเลนสกี กล่าวเพิ่มเติม

ด้านนายเดนิส ชมีฮัล นายกรัฐมนตรียูเครน กล่าวในการประชุมเดียวกันว่า ยูเครนเพิ่มการผลิตอาวุธภายในประเทศโดยรวม 3 เท่า ในปี 2566 และเพิ่มอีก 2 เท่า ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ แต่เจ้าหน้าที่รัฐยูเครน ไม่ได้เปิดเผยตัวเลขที่แน่นอนแต่อย่างใด

อนึ่ง สงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งผ่านมาแล้วกว่า 31 เดือน และยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติลง ทำให้ยูเครนใช้งบประมาณแผ่นดินเกือบครึ่งหนึ่ง หรือประมาณ 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.3 ล้านล้านบาท) ไปกับการป้องกันประเทศ อีกทั้งยูเครนยังได้รับการสนับสนุนทางทหารและเงินช่วยเหลือจำนวนมาก จากประเทศพันธมิตรตะวันตกด้วย

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่รัฐยูเครนกล่าวว่า เงินทุนจากต่างประเทศคาดว่าจะลดลงอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับความต้องการด้านการป้องกันประเทศที่ยังคงเพิ่มขึ้น ซึ่งรัฐบาลเคียฟมุ่งเน้นการผลิตภายในประเทศให้ได้มากที่สุด

ทั้งนี้ ชมีฮัลกล่าวว่า รัฐบาลเคียฟวางแผนที่จะเพิ่มการใช้จ่าย เพื่อช่วยสนับสนุนการเติบโตในการผลิตอาวุธภายในประเทศ ในปี 2568 ซึ่งภารกิจเชิงกลยุทธ์ของยูเครน คือ การเพิ่มขีดความสามารถในการโจมตีระยะไกลภายในประเทศ และสร้างสถานการณ์ที่ทำให้ยูเครนมีความได้เปรียบทางเทคโนโลยี เหนือกองกำลังของรัสเซีย.

เครดิตภาพ : AFP