เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่า จากกรณีที่สถานการณ์ในภูมิภาคตะวันออกกลางขณะนี้ทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา นางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้เป็นประธานการประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์ดังกล่าว รวมถึงสั่งการสถานเอกอัครราชทูตไทยในพื้นที่ ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด และแจ้งให้คนไทยที่ไม่มีเหตุจำเป็นต้องพักในอิสราเอลและประเทศใกล้เคียง ให้เดินทางออกมา ในขณะที่สถานการณ์ยังเอื้ออำนวยให้เดินทางออกมาได้ นอกจากนี้ ให้สถานเอกอัครราชทูตไทยประสานงานกับหน่วยงานท้องถิ่น เรื่องการย้ายคนไทยจากพื้นที่ที่มีการสู้รบไปยังสถานที่ปลอดภัย และให้ข้อมูลคนไทยในพื้นที่ เพื่อขอรับการช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน แต่ขณะนี้ยังไม่มีเหตุย้ายคนไทยออกนอกพื้นที่ และยังไม่มีการร้องขอความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม สถานเอกอัครราชทูตไทยในภูมิภาคตะวันออกกลางได้เตรียมแผนอพยพเบื้องต้นไว้สำหรับการย้ายคนไทยไปที่ปลอดภัยภายในประเทศนั้นๆ ก่อน และหากสถานการณ์รุนแรงขึ้น ก็จะอพยพคนไทยไปประเทศข้างเคียงหรือกลับประเทศไทยต่อไป

นายนิกรเดช กล่าวอีกว่า สำหรับการจัดส่งแรงงานไทยไปยังประเทศอิสราเอลนั้น กระทรวงการต่างประเทศเห็นควรให้ชะลอการส่งแรงงานไทยไปยังอิสราเอลและประเทศใกล้เคียงไว้ก่อน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานงานกับกระทรวงแรงงาน เพื่อกำหนดแนวทางดำเนินการเรื่องดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้ ทางกระทรวงฯ ขอย้ำว่ารัฐบาลไทยติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิดด้วยความห่วงกังวล และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความอดกลั้นอย่างสูงสุด พร้อมกับยุติให้ใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ เพื่อป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งบานปลายมากกว่านี้ และขอให้ทุกฝ่ายให้ความสำคัญกับการเจรจาหยุดยิงให้บรรลุผลโดยเร็ว อีกทั้ง ประเทศไทยสนับสนุนแนวทาง 2 รัฐ ที่มีอิสราเอลและปาเลสไตน์เคียงคู่กันและอยู่ร่วมกันอย่างสันติ